นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า และโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวถึงเรื่องร้องเรียนตั้งแต่พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน (ก.ย. 2564) มีเรื่องร้องเรียนรวมทั้งสิ้น 97 เรื่อง โดยปี 2560 รวม 2 เรื่อง ปี 2561 รวม 11 เรื่อง ปี 2562 รวม 20 เรื่อง ปี 2563 รวม 30 เรื่อง และปี 2564 รวม 36 เรื่อง ซึ่งจำแนกตามประเภทธุรกิจได้ทั้งหมด 19 ธุรกิจ เป็นธุรกิจประเภทพาณิชย์มีการร้องเรียนสูงสุดถึง 38 เรื่อง
ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจค้าปลีก แฟรนไชส์ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หากจำแนกตามพฤติกรรมที่กระทำความผิดแบ่งเป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ (มาตรา 50) 13 เรื่อง การตกลงร่วมกันทางธุรกิจ (มาตรา 54) 6 เรื่อง การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม (มาตรา 57) 66 เรื่อง และไม่เข้าข่ายพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 รวม 12 เรื่อง ซึ่งมีคดีสำคัญที่ กขค. พิจารณาว่ามีความผิดตามมาตรา 57 และดำเนินการลงโทษปรับทางปกครอง จำนวน 6 เรื่อง ได้แก่ กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการขนถ่ายสินค้าผ่านแดน กรณีกีดกันทางการค้าในธุรกิจผลผลิตการเกษตร กรณีการปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อย่างไม่เป็นธรรม กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเป็นตันแทนจำหน่ายเครื่องมือและเครื่องจักรกลการเกษตร กรณีโรงคัดบรรจุผลไม้ปฏิบัติทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม กรณีผู้ให้บริการขนส่งพัสดุปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งโทษสูงสุดตามกฎหมายกำหนดไว้ต้องชำระค่าปรับในอัตราร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด
กขค. ยังได้จัดทำแนวปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือเรียกสั้นๆ ว่าไกด์ไลน์ เพื่อสร้างความชัดเจนและให้มีมาตรฐานทางการค้าที่เป็นธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยที่ผ่านมาได้จัดทำไกด์ไลน์ซี่งมีผลบังคับใช้แล้วจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ ไกด์ไลน์ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ไกด์ไลน์ธุรกิจแฟรนไชส์ ไกด์ไลน์ธุรกิจการรับซื้อผลไม้ ไกด์ไลน์ ฟู้ด เดลิเวอรี่ และมีอีก 1 ไกด์ไลน์ คือไกด์ไลน์การให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) สำหรับ SMEs ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 และในระหว่างนี้ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม เพื่อปรับแนวทางการประกอบธุรกิจให้ถูกต้องตามที่ไกด์ไลน์กำหนด
ทั้งนี้กขค. มีความมุ่งมั่นและมุ่งเน้นให้การบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าเกิดประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ สามารถแข่งขันกันได้อย่างเสรีและเป็นธรรมโดยสร้างมาตรฐานทางการค้าให้เป็นสากลโดยไม่เลือกปฏิบัติ ท้ายที่สุดผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่จะได้บริโภคสินค้า และบริการที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสมต่อไป และหากผู้ประกอบธุรกิจรายใดได้รับการเอารัดเอาเปรียบ การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม