วันที่ 22 ตุลาคม 2564 ดร.วัฒนา กันบัว ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาระบบงานการพยากรณ์อุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา ไลฟ์สด ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Thai Marine Meteorological Center อัพเดทเส้นทาง "พายุโซนร้อน" ลูกใหม่ คาดพายุก่อตัวในวันที่ 24 ตุลาคม เวลาประมาณ ตี 1 จะเห็นพายุก่อตัวเร็วกว่าที่กำหนดเดิม คือวันที่ 25 ตุลาคม
จากนั้นก็จะพัฒนา เปลี่ยนทิศเป็นตะวันตกเฉียงเหนือ เนื่องจากความกดอากาศสูง ลงมาน้อย ทำให้พายุวิ่งเป็นมุม 45 องศา จากกลางทะเลจีนใต้พุ่งผ่านประเทศเวียดนาม แต่ยังแรง เข้าสู่กัมพูชา เวลาบ่ายโมงของวันที่ 28 ตุลาคม
หลังจากนั้นจะเข้าทางอีสานใต้ ก็คือ "จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ" ประมาณ 1 ทุ่ม นี่เป็นข้อมูลใหม่ล่าสุด ประกอบกับความกดอากาศสูงก็ไม่ได้ดันต่ำลงมา จากนั้นพายุจะแผ่รัศมีคลอบคลุมทั้งพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมด เพราะแรงเหวี่ยง เนื่องจากพายุลูกนี้ใหญ่ เป็นเวลา ตี1 ของวันที่ 29 ตุลาคม
จากนั้นความกดอากาศก็เริ่มกดลงมา แต่ก็ยังมีฝนตกหนักมาก เมื่อความกดอากาศสูงลงมา ทำให้พายุเสียการทรงตัวกรวยจะเอียง คาดว่าเปลี่ยนตัวจากดีเปรสชัน เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แล้วเมื่อพิจารณาจากสี เห็นพายุตัวนี้มีลูกเฉื่อยไม่ได้ถูกทำลาย หรือสลายตัว โดยเร็ว เส้นทางอาจจะทำให้เข้าสู่ภาคเหนือแล้วสลายตัว เนื่องจากความชื้นไม่พอ
หลังจากนั้นร่องก็ดีดกลับมาอีก เมื่ออากาศเย็นแผ่ลงมา ในวันที่ 30 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ฝนตกกระจายไปยังภาคกลาง คาดว่าพายุจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 พฤจิกายน แต่กว่าจะจบได้ บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังอยู่แล้ว ยังมาโดนฝนพายุใหม่ตกซ้ำ อีกก็จะทำให้เกิดความวิตกกังวล ที่สำคัญการอัพเดทเส้นทางพายุอยู่ในเวลาที่มีความน่าเชื่อถือในการพยากรณ์
ด้าน สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน.สรุปสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2564 จากระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ นับถอยหลัง เหลืออีก 10 วัน สิ้นสุดฤดูฝน ประจำปี 2564 มีปริมาณน้ำใช้การของ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยามีน้ำใช้การได้รวม 7,227 ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องการน้ำเก็บกักเพิ่ม 4,773 ล้านลูกบาศก์เมตร ประมาณการความต้องการใช้น้ำช่วงฤดูแล้ง และช่วงต้นฤดูฝนของปี 2565 (อุปโภค-บริโภคการเกษตรและระบบนิเวศ) 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร