ดร.อุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากกรณีสื่อดังเมืองนอกตีข่าว ประเทศไทยส่งออกถุงมือยางขายต่ำกว่ามาตรฐานและรีไซเคิลไปยังสหรัฐอเมริกากว่า 80 ล้านชิ้น ทำให้ผู้ประกอบการถุงมือยางเกิดความหวั่นวิตกว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย
“วันนี้ทางสมาคม ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและวิงวอนขอให้รัฐบาลถือเรื่องนี้เป็นสำคัญเพราะทำลายเศรษฐกิจชาติโดยผู้ที่รับผิดชอบทุกฝ่ายจะต้องรีบดำเนินการตรวจสอบและจับกุมพวกมิจฉาชีพให้สิ้นไปโดยเร็วก่อนที่ผู้ผลิตถุงมือยางจะขาไม่ได้นอกจากนั้นเครือข่ายอุตสาหกรรมผลิตถุงมือยางได้ปรึกษาหาแนวทางในการแก้ปัญหาโดยจะต้องร่วมมือกันตรวจสอบให้เข้มงวด
โดยผ่านสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย สมาคมนักวิชาการ ให้ตรวจสอบถุงมือยางก่อนที่จะส่งไปขายยังต่างประเทศเพราะจะได้สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ ก็ขอให้ทุกคนร่วมกันเป็นหนึ่งเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ร่วมมือกันส่งของที่มีคุณภาพใด้มาตราฐานสากลและให้อยู่รวมกันฉันพี่น้องเกื้อกูลซึ่งกันและกันจากรายเล็กๆรวมกันจะเป็นรายใหญ่ที่สุดใด้
ดร.อุทัย เสนอแนะให้ทุกโรงงานรวมกันจัดตั้งเป็น “วิสาหกิจชุมชน” และหลายๆวิสาหกิจชุมชนรวมกันเป็นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผลิตถุงมือยางและจดทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยตาม พ.ร.บ..กยท. ตามมาตรา4 ในนามนามผู้ประกอบกิจการยาง ด้วย เพื่อสร้างให้อุตสาหกรรมถุงมือยางประเทศไทยมีความเข้มแข็ง
อย่างไรก็ดีปัญหาถุงมือยาง ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้วก็เกิดปัญหา แต่รัฐบาลไม่เคยแก้ไขเลย ดังนั้น วันนี้ต้องขอร้องให้เห็นแก่ประเทศชาติ เอาคนผิดมาให้ได้ ไม่เช่นนั้น ทุกบริษัทก็มีความเสี่ยง ที่จะถูกคู่ค้าตีกลับได้ แล้วสุดท้ายคนที่จะรับเคราะห์ในครั้งนี้ก็คือ ชาวสวนยาง ทั้งประเทศ
สำหรับราคายาง ณ วันนี้ราคายังพอไปได้ จึงไม่ค่อยมีคนมาร้อง “ประกันรายได้ยางพารา” ทั้งพืชอื่นก็เข้า ครม. เกือบหมดแล้ว สาเหตุก็เพราะราคายางยังอยู่ในระดับที่ชาวสวนพอใจ แต่หากวันหนึ่งราคาตกลงมา รัฐไม่ดำเนินโครงการออกมา ก็อาจจะมีปัญหาซ้ำรอยเดิมในการ "ทวงเงินประกันรายได้ยางพารา"