ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (จำกัด) มหาชน หรือ GC กล่าวในงาน สัมมนาออนไลน์ Thailand Next episode 3 : Circular Economy นวัตกรรมเพื่ออนาคต ในวาระครบรอบ 50 ปี เครือเนชั่นในหัวข้อ “Circular Economy สร้างสมดุล เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” โดยตอกย้ำถึงความจำเป็นขององค์กรต่างๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่ต้องเดินหน้าบริหารธุรกิจภายใต้แนวคิด Circular Economy หรือเศรษบกิจหมุนเวียน ที่นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รับผิดชอบสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคยุคใหม่ รวมทั้งโกลยุคใหม่ให้ความสำคัญอย่างมาก
"การดำเนินงานตามแนวเศรษฐกิจหมุนเวียน ไม่จำเป็นต้องรอให้มีกฎระเบียบ หรือมีมาตรการกดดันกีดกันทางการค้า หากสามารถดำเนินการได้ต้องเร่งดำเนินการตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เพราะจะทำให้เกิดผลตอบแทนกลับมาในอนาคต ทั้งการลดต้นทุน และการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด" ดร.คงกระพันกล่าว
ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด" ดร.คงกระพันกล่าว
สำหรับ GC ได้ดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance หรือ ESG ) ด้วยการสร้างสมดุลย์พร้อมกันทั้ง 3 ส่วนความยั่งยืนในธุรกิจและสังคมในระยะยาว รวมทั้งบริหารความเสี่ยงที่ต้องครอบคลุมทุกมิติ โดย GC ประกาศ ‘Together To Net Zero’ กำหนดแผนงานชัดเจน ตั้งเป้าหมายระยะกลางในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 20% ภายในปี 2573 เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ตามข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยวางแผนในการลงทุนสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2573 และจะลงทุนเพิ่มขึ้นในทศวรรษต่อไป
GC เดินหน้าสู่เป้าหมายตามแนวทาง Circular Economy โดยยึด 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
ดร.คงกระพัน กล่าวย้ำว่า เรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นเรื่องสำคัญ โดยต้องดำเนินการสร้างความสมดุลย์ไปพร้อมๆ กันทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หากองค์กรต่างๆ สามารถดำเนินการได้ ก็จะช่วยสร้าง GDP สร้างให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจแนวใหม่ ผ่านการรีไซเคิล การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ เพื่อทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ สามารถสร้างประโยชน์และผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน