-ห่วงอะไรบ้างจากการเปิดประเทศครั้งนี้
ห่วงเรื่องความร่วมมือของประชาชนในบางส่วน เช่น ถ้าเปิดสถานบันเทิงคงเดือนธ.ค. แต่ตอนนี้ที่ห่วงคือพวกโลจิสติกส์คือพวกพนักงานขับรถที่ให้บริการ เข้าใจว่ายังฉีดวัคซีนได้ไม่ครอบคลุม และถ้าอยู่ในบริษัทอย่างพวก Grab คงไม่มีปัญหา เพระเจ้าของรถคงมีมาตรการต่าง ๆ ในการดูแล แต่ถ้าเป็นคนขับอิสระที่น่าห่วงคือจะคุมอย่างไร เพราะไม่รู้ว่าเขาฉีดวัคซีนได้ถึง 2 เข็มหรือยัง
-คนขับอิสระกลุ่มไหนบ้างที่น่าห่วง
ก็มีผู้ขับแท็กซี่ สามล้อ หรือขับรถตู้ รถโดยสารสาธารณะเป็นต้น อันนี้ที่ยังเป็นห่วงอยู่ว่าเขาจะยังฉีดวัคซีนไม่ได้ครบโดส แต่พวกผู้ขับรถโดยสารที่เป็นองค์กรเจ้าของคงรับผิดชอบอยู่แล้ว ตอนนี้ที่มีความกังวลก็คือในเรื่องนี้
อีกเรื่องหนึ่งคือนักท่องเที่ยวเข้ามา ถ้าเขาอยู่ในโรงแรม หรือไปร้านอาหารเขาก็อาจอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอันนี้มี 2 แง่ ก็คงจะต้องค่อย ๆ ปล่อย ถ้าปล่อยทีเดียวถ้าคุมไม่อยู่ ก็คงจะยุ่งเหมือนกัน ค่อย ๆ ปล่อยหมายความว่าโรงแรม หรือร้านอาหารที่มีมาตรฐาน SHA Plus (มาตรการในการควบคุมและคัดกรองนักท่องเที่ยว ระบบติดตาม มาตรฐานที่พัก) เขาก็มีมาตรการในการควบคุม ขณะเดียวกันเขาก็ได้รับการเทรนนิ่ง มีพวก จป. (เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานวิชาชีพ) หรือ SHA Plus officer มีหน้าที่ในการติดตาม ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วเจ้าหน้าต้องไปตรวจจับคงไม่พอ แต่ถ้าอย่างนี้เขามีเจ้าหน้าที่ตรวจจับกันเอง
ถ้า SHA Plus เขาก็มีเทรนนิ่งละ พวกโรงแรมที่ กทม.ก็มี 300 กว่า เกือบ 400 แห่ง ต้องพยายามทำแคมเปญให้เขาเข้าสู่ระบบมาตรฐาน SHA Plus รวมถึงพวกร้านอาหารอะไรต่าง ๆ ต้องคงทยอยกันเข้าเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน แต่ก็เห็นใจนะ ถ้าขนาดกลาง-ขนาดเล็กก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำไม่เป็นเหมือนกัน และอาจจะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องการที่เขาต้องจ้างคนมาดูแลอะไรต่าง ๆ หรือต้องปรับสถานที่ให้มีความปลอดภัยมีมาตรฐานที่เราเป็นห่วงมี 2 Area(พื้นที่) นี้ ส่วน Area อื่นไม่ค่อยมีปัญหา
-คาดการณ์นักท่องเที่ยวเข้าไทย
เปิดประเทศมาการท่องเที่ยวเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ตั้งความหวังไว้ในเดือนพฤศจิกายนจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดือนละ 3 แสนคน ถามว่าเข้ามาจากไหน เขาตั้งสมมุติฐานโดยใช้ฐานของปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยช่วง 2 เดือนสุดท้าย(พ.ย.-ธ.ค.) เดือนละ 3 ล้านคน เขาขอเดือนละ 10% ( 3 แสนคน) ก็พอ แต่เชื่อว่าไม่ถึงแน่นอน และในความเป็นจริงก็ไม่น่าจะถึง เพราะว่าเราเพิ่งประกาศเปิดประเทศไปนักท่องเที่ยวเขาก็ต้องมีการเตรียมตัวในการเดินทาง กว่าจะเข้ามาต้องใช้เวลาเตรียมตัวอย่างน้อยเป็นเดือน หรือสองเดือน และการขึ้นเครื่องก็มีมาตรฐานของมัน ขณะเดียวกันเขายังเป็นห่วงว่าเมืองไทยยังติดเชื้อโควิดกันอยู่หลัก 7-8 พันคนต่อวัน ความปลอดภัยสูงแค่ไหนอะไรอย่างนี้
-หอการค้าไทยคาดจะเข้ามาเดือนละ 1 แสนคน
ก็อย่างนั้นมากกว่า แต่ทาง ททท.ตั้งความหวังไว้ว่าเดือนละ 3 แสนคน ทั้งนี้คนไทยไม่ต้องเป็นห่วงว่านักท่องเที่ยวจะเอาเชื้อเข้ามา แต่นักท่องเที่ยวเขากลัวจะนำเชื้อกลับไปมากกว่า
-45 ประเทศและหนึ่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในข้อเท็จจริงบางประเทศก็ยังไม่ปล่อยนักท่องเที่ยวของตัวเองออกมา เช่น จีน
ที่รัฐบาลประกาศชื่อ 46 ประเทศจากเห็นว่ามีความเสี่ยงต่ำ แต่นอกจากนั้นก็เข้ามาได้เหมือนกัน แต่มันก็ยุ่งยากหน่อย เข้ามาก็ถูกกักตัว 7 วัน เขาเรียกมาแบบ Bangkok Sandbox
-ที่เราหวังจะเข้ามานอกจากนักท่องเที่ยวมีใครอีก
สิ่งที่ได้มาก็คือ 1.คนไทยจากต่างประเทศเข้ามา 2.นักธุรกิจที่มีคนในครอบครับทำงานอยู่ในไทย 3.นักลงทุนที่ลงทุนในไทยอยู่แล้วและมาติดตามงาน หรือคนที่จะมาซื้อของ หรือมารักษาร่างกาย พวกนี้ก็คงจะมาแน่นอน
-เปิดประเทศคาดช่วยกระตุ้นได้มากน้อยแค่ไหน
จีดีพีปีนี้คงจะบวกไม่ต่ำกว่า 1% และคงจะทำได้ 1-1.5% สบาย ๆ เนื่องจาก 1.เราเปิดเมือง จะมีนักท่องเที่ยวในประเทศจากจังหวัดสู่จังหวัด ในประเทศก็จะคึกคักตอนนี้ก็เห็นเริ่มคึกคักมากแล้ว และอีกส่วนหนึ่งก็คือนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่จะเข้ามา คือถ้าเข้ามาช่วงนี้ก็จะมาอยู่นาน ไม่ใช่มาอยู่ 2 วันแล้วก็ไป ก็ต้องมาอยู่นานหน่อย และอาจจะมาใช้เป็นสถานที่ทำงานเขา อานิสงส์จะเกิดกับโรงแรมในต่างจังหวัด ถ้าเขาไปเขาไม่ไปอยู่แค่ช่วงสุดสัปดาห์ เขาก็จะทำงานด้วยช่วงจันทร์ถึงศุกร์ ระยะเวลาก็จะนานขึ้น
“ฉะนั้นการที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาเฉลี่ยใช้จ่าย 5 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป ก็คงจะน่าจะสูงขึ้นอย่างน้อย 7.5 หมื่นบาทต่อหัวต่อคน เป็นต้น เป็นอย่างนี้แน่นอน”
-ปี 2565 หอการค้าคาดหวังจีดีพีไทยจะโตได้ 5-7%
ก็คิดว่าจะพยายามทำให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6% เพราะว่าปีหน้านักท่องเที่ยวก็จะเริ่มกลับมาละ ก็น่าจะประมาณ 6-10 ล้านคนก็น่าจะได้สำหรับปีหน้า ถ้าไม่มีโควิดรอบใหม่
-ไม่ใช่ท่องเที่ยวฟื้น ภาคอื่นยังดีด้วย
ใช่ อีกประการหนึ่งหนึ่งภาคการส่งออกของเราก็ยังดี เดือนกันยายนล่าสุดส่งออกได้ 23,036 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว +17.1% ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกส่งออกได้ 199,997.7 ล้านดอลลาร์ +15.5% ดังนั้นจีดีพีปีนี้โตได้ 1-1.5% อยู่แล้ว
-ภาคธุรกิจเตรียมตัวรับเปิดประเทศอย่างไรบ้าง
ที่ต้องเตรียมตัวเช่น ต้องจ้างลูกจ้างให้กลับมาทำงานให้เร็วที่สุดโดยเฉพาะในภาคบริการ และการท่องเที่ยว และต้องเตรียมเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงพอ ขณะที่ปัจจุบันภาคผลิตและภาคบริการก็ยังขาดแคลนแรงงานโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว รัฐบาลก็เปิดไฟเขียวอยู่แล้วที่พวกคนงานต่างชาติที่เข้ามาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 3-4 แสนคนที่อยู่ในภาคผลิตและบริการก็ให้โอกาสเขา ให้นายจ้างรับเขาเข้ามาได้ และให้กรมการจัดหางานมาทำเอกสารให้ถูกต้อง ทางหอการค้าไทยเองก็ได้เสนอให้รัฐบาลว่าถ้าเขาถูกต้องแล้วต้องรีบหาวัคซีนฉีดให้กับเขา ถ้าไม่อย่านั้นเดี๋ยวคนเหล่านี้ก็จะเอามาเชื้อมาให้พวกเรา