หลังจากเห็นยอดส่งออกสินค้าชายแดนและผ่านแดน ขยายตัวสุดปัง 9 เดือน ขยายตัว38% ทั้งปี ตั้งเป้าขยายตัว 3% ต้องทำตัวเลขการส่งออกให้ได้ 789,198 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า โอกาสของสินค้าไทที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องทั้งปี ซึ่งปัจจัยสนับสนุนการส่งออกยังคงเป็นค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น บวกกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในสินค้าจำเป็นทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภค และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการ Work From Home และการป้องกันหรือรักษาโรคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสินค้าไทยยังคงได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการในตลาดเพื่อนบ้าน
โดยเฉพาะประเทศ CLMV และการฟื้นตัวในภาคการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า/เศรษฐกิจโลก อย่าง "จีน" ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตมากกว่า 8% ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการนำเข้าสินค้าปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้น เช่น การนำเข้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
เพื่อนำไปผลิตสินค้าถุงมือยาง และล้อรถยนต์ เป็นต้น รวมถึงสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และที่ผลไม้โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และลำไย ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดจีน การผ่อนคลายมาตรการล้อคดาวน์ของเวียดนาม ซึ่งจะช่วยให้เกิดความต้องการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น
มาดูว่าสินค้าไหนของไทยที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วยอดขายถล่มทลายและมีโอกาสโตในอนาคต ต้องบอกว่า "มาเลเซีย" ถือว่าเป็นประเทศส่งออกอันดับ1 ของไทย ซึ่งสินค้าที่ ส่งออกสำคัญๆ ที่ยังขยายตัวเป็นบวกมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฯ ,ยางพารา , และเครื่องวีดิโอ เครื่องเสียงฯ
"เมียนมา" สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล ,น้ำมันดีเซล , และปุ๋ย
"กัมพูชา" สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 1,รถยนต์นั่ง , เครื่องจักรกลและส่วนประกอบอื่น ๆ
"สปป.ลาว" สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป , น้ำมันดีเซล , น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ
ส่วน การค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม ซึ่งประกอบด้วย จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ จะเห็นได้ว่าในเดือนกันยายนไทยส่งออกสินค้าผ่านแดน มีมูลค่าการส่งออก 43,000 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง +31.95% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยมี "จีน" เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่ง สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ ,ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ,%) ยางพารา , ไม้แปรรูป , และผลิตภัณฑ์ยาง
รองลงมาเป็น "สิงคโปร์" สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฯ , เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบฯ , และแผงวงจรไฟฟ้า , และอันดับสาม "เวียดนาม" สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด ,เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ , และหม้อแบตเตอรี่และส่วนประกอบ
รู้แบบนี้แล้ว....ผู้ประกอบการไทยคงต้องเร่งมองหาโอกาสและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพอาศัยความได้เปรียบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้เร่งเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น และคาดการณ์ว่าความต้องการสินค้าไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่องด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก