หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานธุรกิจ SME ภายใต้กรอบวงเงิน 37,506 ล้านบาท เพื่อให้นายจ้างสามารถรักษาระดับการจ้างงาน โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้เชิญชวนให้บรรดานายจ้าง และเจ้าของธุรกิจ SMEs ที่สถานประกอบการภาคเอกชนอยู่ในระบบประกันสังคม และมีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ผ่านเว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ได้ตั้งแต่ 20 ตุลาคม - 20 พฤศจิกายน 2564 เพื่อรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ในเดือนพฤศจิกายน 2564 - มกราคม 2565
อัพเดทถึงขณะนี้ มีผู้ประกอบการลงทะเบียนประมาณ 51% ของจำนวนเป้าหมาย โดย ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลา 8.00 น. มีจำนวนผู้ประกอบการลงทะเบียน 201,542 ราย คิดเป็น 51.06% และมีลูกจ้างสัญชาติไทย 2,871,781 คน คิดเป็น 71.21% เทียบจากเป้าหมายจำนวนสถานประกอบการ 394,703 ราย จำนวนลูกจ้างสัญชาติไทย 4,032,948 คน ( ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม ณ วันที่ 16 ต.ค.64)
ทั้งนี้นายจ้างสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ได้ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 เพื่อรับสิทธิเข้าร่วม ฯ
หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการมีดังนี้
1. คุณสมบัติ
เป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคมมาตรา 33 มีสถานะ Active ที่มีลูกจ้างทุกสาขารวมกันไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เพื่อตรวจสอบขนาดกิจการที่มีสถานะเป็น SMEs
2.เงื่อนไข
(1) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้างตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยจำนวนไม่เกิน 200 คน ที่อยู่ในฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 มีสถานะ Active ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564
(2) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พฤศจิกายน 2564 ถึง มกราคม 2565)
(3) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างจริงของทุกเดือน โดยตรวจสอบจากฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 มีสถานะ Active ทุกวันที่ 16 ของเดือน
(4) ระหว่างเข้าร่วมโครงการเดือนที่ 2 และ 3 (ธันวาคม 2564 ถึงมกราคม 2565) นายจ้างจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้
4.1 นายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 หากนายจ้างไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น ๆ
4.2 ในกรณีที่นายจ้างมีจำนวนการจ้างงานเพิ่มขึ้นโดยเปรียบเทียบจากข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 ถึง มกราคม 2565)
(5) นายจ้างจะต้องแจ้งชื่อและหมายเลขบัญชีธนาคารของนายจ้าง (กรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคลต้องใช้บัญชีธนาคารซึ่งเป็นชื่อของนิติบุคคลนั้น /นายจ้างบุคคลธรรมดาใช้ชื่อบัญชีของนายจ้าง)
(6) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้กับนายจ้าง โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากตามที่นายจ้างแจ้งทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน กรณีการรับเงินอุดหนุนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สำหรับธนาคารอื่นนายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนหลังจากวันดังกล่าว โดยจะถูกหักค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างธนาคารจากเงินอุดหนุน
(7) นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ก่อน แล้วจึงสมัครใช้บริการระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลการส่งเงินสมทบ สปส. 1-10 ในระบบ e-Sevice ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป จึงจะได้รับเงินอุดหนุนจากโครงการนี้
(8) การขอรับเงินอุดหนุนของนายจ้างจะต้องไม่เป็นเหตุให้นายจ้างชะลอการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง
(9) นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดตามประกาศของคณะกรรมการค่าจ้าง
วิธีการลงทะเบียนและเอกสารที่ต้องใช้
1. ลงทะเบียนทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th
2 แนบไฟล์รูปภาพ (.jpg หรือ .png ขนาดแต่ละไฟล์ไม่เกิด 2MB) ของสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร, สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร, สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์ (นิตุบุคคล)/สำเนาบัตรประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา)
3. กรณีมอบอำนาจแนบไฟล์รูปภาพของสำเนาหนังสือมอบอำนาจ/สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
เช็กผลอนุมัติหลังลงทะเบียน 5 วัน
สามารถตรวจสอบผลการอนุมัติได้ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม – 20 พฤศจิกายน 2564 (หลังลงทะเบียน 5 วันทำการ) กรณีได้รับสิทธิตามเงื่อนไข และไม่ได้อยู่ในกลุ่มทบทวนสิทธิ จะได้รับเงินอุดหนุนทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน
ไทม์ไลน์รับเงินอุดหนุนค่าจ้าง
ที่มา : กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน