ความคืบหน้าโครงการ “ประกันรายได้ข้าว” ยังมีต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 เฟซบุ๊ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ว่ามีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทุกคน ที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ รวมทั้งการแพร่ระบาดโควิดและน้ำท่วม-น้ำแล้ง จึงได้มอบหมายให้ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหางบประมาณมาให้พี่น้องเกษตรกร ในโครงการต่างๆ เช่น “โครงการประกันรายได้ข้าว"
“โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าว” หรือ “จำนำยุ้งฉาง” โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการข้าวเพื่อช่วยเหลือเรื่องต้นทุนการผลิตข้าว หรือ "เงินช่วยเหลือชาวนา" ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด ชาวนา รับเงิน 20,000 บาท , โครงการประกันรายได้ยางพารา และ โครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ นั้น รัฐบาลสามารถจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้เพิ่มเติมอีก 155,000 ล้านบาท
โดยจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.อนุมัติในวันอังคารหน้า (30 พ.ย.64) จากนั้น ก็จะมีการเบิกจ่ายผ่าน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถึงบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรง สำหรับรายละเอียดขอให้ติดตามข่าวสารจากทางภาครัฐอีกครั้ง ล่าสุด มีความคืบหน้า ตามลำดับ ล่าสุด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการเคาะราคามาถึง งวดที่ 7 แล้วนั้น
เฟซบุ๊ก สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี โพสต์ แจ้งข่าวดี ความคืบหน้า “โครงการประกันรายได้ข้าว” ว่าอดใจ รออีกไม่นาน นายกรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ “โครงการประกันรายได้ข้าว” รอมติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ทุกคำถามที่ชาวนาต้องการทราบ อาทิ โครงการช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 20 ไร่ รับเงิน 2 หมื่นบาท และเงินจ่ายค่าส่วนต่าง ตั้งแต่ งวด 3 ถึง งวด 7 จะจ่ายอย่างไร ทุกคำถาม รอมติ ครม. วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
1. เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ของ ธ.ก.ส. ผ่านเบราว์เซอร์อินเตอร์เน็ตต่างๆ เว็บไซต์สำหรับการเช็คเงินเกษตรกร สามารถเข้าใช้งานได้ผ่านทุกบราวน์เซอร์บนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ คอมพิวเตอร์
2. กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็คเงินเกษตรกร การเช็คเงินเกษตรกร 2564 เข้าหรือยัง สามารถทราบผลได้ทันทีหลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนโดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
วิธีตรวจสอบสถานะโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชี
ธนาคารจึงขอความร่วมมือลูกค้าผู้มาใช้บริการในสถานการณ์ที่มีการเฝ้าระวัง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า (COVID-19) ดังนี้
1. ลูกค้าที่ไม่ประสงค์ถอนเงิน แต่ประสงค์ทราบยอดการโอนเงินสามารถตรวจสอบได้ที่ตู้ปรับสมุดบัญชีของธนาคารหรือแอปพลิเคชั่น A-Mo bile หรือ บริการแจ้งเตือน SMS
2. ลูกค้าที่มีบัตร ATM สามารถถอนเงินผ่านตู้ ATM ทุกธนาคารได้ตลอดเวลา
3. ลูกค้าที่ไม่มีบัตร ATM และมีความประสงค์จะถอนเงินผ่านหน้าเคาน์เตอร์ของธนาคาร ให้มาถอนเงินตามแผนการจ่ายเงินที่กำหนดเพื่อปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยเคร่งครัด