นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า วันที่ 26 พ.ย.2564 ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 7 โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65
ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 19-25 พ.ย.2564 จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว แต่การจ่ายส่วนต่างเริ่มน้อยลงจากงวดก่อนหน้า หลังราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการจ่ายเงินส่วนต่าง งวดที่ 7 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 11,089.76 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,910.24 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,644.44 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,355.56 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 9,574.25 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,425.75 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 7,903.19 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,096.81 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 8,183.24 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,816.76 บาท
โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 7 สูงสุด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 57,743.36 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 53,688.96 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 35,643.75 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 62,904.30 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 61,068.16 บาท
ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างในโครงการประกันรายได้ในปีที่ 3 ยังคงหลักการเช่นเดิม โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของเกษตรกรภายใน 3 วันทำการหลังจากที่ได้มีการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเช่นเดียวกับปี 1 และปี 2
โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 3 ได้ประกันราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน
ปัจจุบันการจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ยังไม่เป็นไปตามหลักการที่กำหนดไว้ว่าเมื่อมีการคำนวณส่วนต่างในแต่ละงวดแล้ว ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรภายใน 3 วันทำการ ทำให้การจ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 3 , 4 , 5 , 6 และ 7 ต้องรอเงินจากรัฐบาล ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ
ได้ขยายเพดานการก่อหนี้ตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังภาครัฐ จากเดิม 30% เป็น 35% เป็นระยะเวลาชั่วคราว 1 ปี ทำให้มีวงเงินในการก่อหนี้เพิ่มเติมได้อีกประมาณ 1.55 แสนล้านบาท ที่จะนำมาใช้จ่ายส่วนต่างในโครงการประกันรายได้ ซึ่งจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 30 พ.ย.2564