จากกรณีที่พบเชื้อไวรัส โอไมครอน ชนิดกลายพันธ์ที่แอฟริกาใต้ หลังจากนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นสายพันธุ์ระดับที่น่ากังวล (Variants of Concern: VOC) สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด โควิดสายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ โอไมครอน Omicron ถูกรายงานว่าพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ปัจจุบันพบว่ามีการระบาดแล้วในประเทศแอฟริกาใต้, บอตสวานา, เบลเยียม, ฮ่องกง, อิสราเอล, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, แคนาดา (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พ.ย. 2021) ล่าสุดมีข่าวว่าอิสราเอล ได้สั่งปิดประเทศแล้ว
ล่าสุด สำนักข่าวเจแปนไทม์ส รายงานว่า ฟูมิโอ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นจะปิดพรมแดนสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาใหม่ ซึ่งรวมถึงผู้ที่เดินทางมาเพื่อธุรกิจ นักเรียนต่างชาติ และนักศึกษาฝึกงานต่างชาติ ตั้งแต่วันอังคารเป็นต้นไป เนื่องจากความกังวลเรื่องการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
"นี่เป็นมาตรการป้องกันและฉุกเฉินเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด" คิชิดะกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยด้วยว่า การห้ามเข้าประเทศดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อชาวต่างชาติในประเทศที่เดินทางกลับเข้ามาและชาวญี่ปุ่น แต่หากคนกลุ่มนี้ได้เดินทางมาจาก 14 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน พวกเขาจะต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนด
"นี่เป็นมาตรการพิเศษในขณะนี้ จนกว่าเราจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์โอไมครอน" คิชิดะกล่าว
โควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจติดต่อกันได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับการแพร่ระบาด และความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ สวมหน้ากาก และรักษาระยะห่าง พร้อมเน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดในบรรดาประเทศกลุ่ม G7
ที่มา: เจแปนไทม์ส