นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (30 พ.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติวงเงินรวม 76,080.95 ล้านบาท ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 เพิ่มเติม โดยแบ่งเป็นวงเงินจ่ายชดเชยให้เกษตรกรจำนวน 74,569.31 ล้านบาท และ ค่าใช้จ่าย ธ.ก.ส. จำนวน 1,511.64 ล้านบาท เป็นไปตามยอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องชดเชยตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ที่ปรับเพิ่มจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 35 ของกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี หลังจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ทีผ่านมาเพื่อใช้สำหรับประกันรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรวมทั้งหมด 33 งวด
ในส่วนชนิดข้าวและพื้นที่ ประกันรายได้ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และ ข้าวเปลือกเหนียว ชดเชย ณ ราคาความชื้นร้อยละ 15 ไม่เกินครัวเรือน 40 ไร่ ส่วนการจ่ายเงินชดเชย ธ.ก.ส.เข้าบัญชีเกษตรกโดยตรงภายใน 3 วันทำการ
นอกจากนี้ ครม.อนุมัติหลักการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 3 วงเงินทั้งสิ้น 10,065,687,645.28 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรชาวสวนยางกรณีราคายางตกต่ำ เป้าหมายประกันรายได้ชาวสวนยางที่ลงทะเบียนพื้นที่ปลูกยาง ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยาง ภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 จำนวน 1,880,458 ราย พื้นที่กรีดยาง 19.16 ล้านไร่
สำหรับหลักเกณฑ์ สวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไป กรีดแล้วรายละไม่เกิน 25 ไร่ ราคาประกันรายได้ ประกอบด้วย ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม.