นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าครม.ได้เห็นชอบวงเงินประกันรายได้ 76,000 ล้านบาท และเงินสำหรับการช่วยเหลือพัฒนาปรับปรุงคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท จำนวนรายละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาท
สำหรับการจ่ายเงินประกันรายได้หรือส่วนต่างของข้าว ที่ผ่านมา จ่ายไปแล้ว 2 งวด เป็นเงิน 13,000 ล้านบาท ยังค้างอยู่อีก 31 งวด ซึ่ง ครม. อนุมัติวงเงินให้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต้องไปประชุม เพื่อให้ความเห็นชอบตามมติ ครม.
และจะได้จ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 3 และงวดที่เหลือให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินกลางเดือนธ.ค.2564 จะสามารถดำเนินการจ่ายเงินส่วนต่างได้ หรือเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการประชุมของบอร์ด ธ.ก.ส.
“วงเงินงบประมาณโครงการประกันรายได้ในปีหน้า ต้องขึ้นอยู่กับแนวโน้มของราคาพืชผลการเกษตรในช่วงปีงบประมาณหน้า ที่จะเป็นปัจจัยนำมาสู่การคิดคำนวณว่าเงินส่วนต่างต้องใช้เท่าไร แต่ทั้งหมดอยู่ที่นโยบายว่าจะให้ใส่ในงบประจำ หรือดำเนินการในรูปแบบใช้เงิน ธ.ก.ส. สำรองล่วงหน้า แล้วรัฐบาลตั้งงบประมาณชดใช้ภายหลัง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด”
อย่างไรก็ตาม ในยุทธศาสตร์ข้าวที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้ให้ความเห็นชอบ มีการกำหนดเรื่องลดต้นทุนการผลิต จากไร่ละ 6,000 บาท ให้ไม่เกิน 3,000 บาท และเพิ่มผลผลิตจาก 465 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 600 กิโลกรัมต่อไร่ให้ได้ รวมทั้งเพิ่มพันธุ์ใหม่ เพราะจุดอ่อนของไทย ไม่มีข้าวพันธุ์ใหม่ที่สนองความต้องการตลาดได้
ซึ่งจะเพิ่มข้าวพันธุ์ใหม่ใน 5 ปี (2564-2567) ให้ได้ 12 พันธุ์ ซึ่งเป็นข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์ ข้าวพื้นนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวหอม 2 พันธุ์ และข้าวโภชนาการสูง 2 พันธุ์ กำหนดให้มีการรายงานความคืบหน้าในที่ประชุม นบข.ทุก 3 เดือน คิดว่าต่อไปนี้ท่านนายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะ คงจะมีการรายงานติดตามว่าคืบหน้าถึงไหนในแต่ละเรื่อง