นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่มีการตรวจวัดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเมืองหลัก พบว่ามีค่าสูงขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคมของทุกๆ ปี ซึ่งยานยนต์เป็นแหล่งกำเนิดที่สำคัญของฝุ่น PM2.5
โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ยกร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2565 โดยให้ความสำคัญกับมาตรการตรวจรถควันดำได้เพิ่มจุดตรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบตรวจจับ ระงับการใช้รถควันดำจนกว่าจะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องปรามมิให้มีรถควันดำเข้ามาในเขตเมือง
นายอรรถพล กล่าวว่า การตรวจสอบตรวจจับรถควันดำในพื้นที่ กทม. ร่วมดำเนินการโดย คพ. กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจรและกทม. ในส่วนการตรวจสอบจังหวัดเมืองหลัก ดำเนินการโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่1-16 สำนักงานขนส่งจังหวัด สถานีตำรวจในพื้นที่ และ อปท.
จากรายงานผลการตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้รถควันดำตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 – 15 ธ.ค.64 ในพื้นที่ กทม.มีผลตรวจสะสมทั้งหมด 74,924 คัน สั่งห้ามใช้รถ จำนวน 315 คัน ในส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดมีผลตรวจสะสมทั้งหมด 21,895 คัน สั่งห้ามใช้รถ จำนวน 265 คัน
“รัฐจะเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการตรวจจับควันดำ "ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” บังคับใช้บทลงโทษสูงสุด ตั้งจุดตรวจสอบตรวจจับรถควันดำทุกประเภท ครอบคลุมถนนสายหลัก สายรอง ทั้งขาเข้า-ออก จำนวน 20 จุด ใน กทม.และปริมณฑลรวมทั้งจังหวัดเมืองหลักจะทำพร้อมกัน ต้องขอความร่วมมือเจ้าของยานพาหนะในการดูแลซ่อมบำรุงรถยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ” นายอรรถพล กล่าว