“ในขณะที่เรากำลังเผชิญวิกฤติโควิด เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ เทคโนโลยีทางด้านการเงิน มีความเติบโตอย่างรวดเร็ว และถาโถมเข้ามาอย่างไร้พรมแดน กลายเป็นจังหวะที่สร้างโอกาสและความท้าทาย ให้กับผู้ที่ปรับทัศนะคติ เปลี่ยนความคิด และลงมือคว้าโอกาส สร้างความร่ำรวยมหาศาล”
เป็นข้อความคีย์เวิร์ดสำคัญที่ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวบนเวทีเปิดตัวงาน “FINVERSE Financial TRENDS 2022 New Economic Forum” ซึ่งตัวเขาเองเป็นเจ้าของโปรเจคนี้ และเขายังเชื่อว่าการปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจยุคใหม่ จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนไปสู่เศรษฐกิจการเงินยุคใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้แน่นอน
งานนี้มี “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธี โดยมีแขกคนสำคัญและวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณะสุข ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. ปชป. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ CEO ปตท. นายอาลก โลเฮีย ผู้ก่อตั้งบริษัทอินโดราม่า เวนเจอร์
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้ง Bitkub นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ร่วมก่อตั้ง สตางค์คอร์ป นางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีตส.ส. กทม. นายเมธี อรุณ นายอรรถ เหมวิจิตรพันธ์ อดีตรองประธาน เชลล์ นายสมศักดิ์ บุญคํา LocalAlike นายสุรบถ หลีกภัย VRZO นายสัญชัย ปอปลี Cryptomind นายตุล ไวฑูรเกียรติ วงอพาร์ตเมนต์คุณป้า นายอธิศ นันทวรุณ Translucia Metaverse
“เศรษฐกิจยุคใหม่ ไม่ใช่ของคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทุกรุ่นทุกวัยที่ควรเปิดใจรับ แค่เราต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลความรู้ที่ถูกต้อง และลดความเหลื่อมล้ำ ต้นทุนชีวิตระหว่างคนตัวใหญ่ๆ กับคนตัวเล็กๆ ในสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่ทำยาก แต่ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามที่จะทำมันอย่างต่อเนื่อง” ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้เขายังได้เล่าถึงศัพท์เซทที่สำคัญๆ เกี่ยวกับ เศรษฐกิจยุคใหม่ การคลังยุคใหม่ ในโลกดิจิทัล ที่ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเก่า หรือคนรุ่นใหม่ที่เปิดใจ ควรต้องทำความรู้จัก ได้แก่ เทคโนโลยี Blockchain, เหรียญสกุล Digital เช่น bitcoin, Ai ปัญญาประดิษฐ์, จักวาลนฤมิตร Metaverse รวมทั้ง NFTs (ศิลปะดิจิทัล)
เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ ประชาชนจะนำไปใช้ได้อย่างไร สู่การต่อยอดพัฒนาสังคมได้อย่างไร สามารถเพิ่มรายได้ได้จริงหรือ รวมทั้งการเปิดกระเป๋าสตางค์ e-Wallet สินทรัพย์ดิจิตอล การออม การระดมทุน ผ่านระบบดิจิตอล เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ทีมเศรษฐกิจทันสมัย ของ พรรคประชาธิปัตย์ พยายามสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชน ผ่านงาน “FINVERSE - New Economic Forum” และได้ระดม CEO ผู้มากประสบการณ์ และประสบความสำเร็จในการลงทุนผ่าน ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล มาแชร์ประสบการณ์ความรู้
+ ทำไม ? “New Economic forum Series” ต้องมีคำว่า “Series”
ปริญญ์ พานิชภักดิ์ เล่าว่า ที่ใช้คำว่า Series เพราะว่างานนี้เป็นการจัดขึ้นครั้งแรก เป็นเวอร์ชั่น 001 เวอร์ชั่นเรกคือ ฟินเวิร์ส คำว่า ฟิน ในทีนี้หมายถึง ไฟแนนเชียล สื่อความหมายเรื่องการเงิน ไม่ใช่ ฟิน หรือ ฟินิช ที่แปลว่าจบลง แต่มันจบลงแน่ถ้าเราไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ หรือ เปิดใจรับเทคโนโลยีที่มันถาโถมเข้ามาแล้ว เราจึงต้องให้ความรู้เรื่อง จักรวาลนฤมิตร Metaverse โลกเสมือนจริง โลกแห่งอนาคต ระบบบล๊อกเชน ที่เราต้องเรียนรู้ในการทำธุรกรรม Series ต่อไปของเศรษฐกิจยุคใหม่จะมีด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative) เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio) และเศรษฐกิจสีเงิน (คนสูงวัย)
+โลกเปลี่ยนไปแล้ว 4.0 กับ 0.4 เทคโนโลยีต้องผสานกับความเป็นคน
ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า จุดแข็งของประเทศไทยคือ 0.4 ที่เราว่ากันด้วยเรื่องของ ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมไทย ลักษณะเฉพาะของคนไทย คือ มีความโอบอ้อมอารี มีรอยยิ้ม มีความเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจที่ดีงามของคนไทย สิ่งเหล่านี้เป็นมนต์เสน่ห์ ที่ทำให้ต่างชาติหลงใหล อยากเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อมาแล้วเกิดความคิดถึง อยากกลับมาอีก
แต่สถานการณ์โควิดทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่สามารถเดินทางมาได้ เป็นโจทย์ที่เราต้องคิดต่อว่า เราจะขายหรือนำเสนอมนต์เสน่ห์ หรือความเป็นเอกลักษณ์ไทยที่ต่างชาติหลงใหลนี้ ได้อย่างไรในรูปแบบ 4.0 ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์กับความเป็นมนุษย์ จะผสานกันได้อย่างไร ในขณะที่โลกเปลี่ยนไป ซึ่ง ทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ระดมบุคคลที่มีองค์ความรู้และประสบความสำเร็จในด้านนี้ มาร่วมในงาน “FINVERSE New Economic Forum” ครั้งนี้ด้วย
+โอกาส ความท้าทาย อุปสรรคของเศรษฐกิจไทยในยุคดิจิทัล
ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อธิบายว่า เทคโนโลยีทันสมัยนำโอกาส ความท้าทาย มาพร้อมกับอุปสรรค ซึ่งอุปสรรคในโลกของเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ในโลกของฟินเวิร์ส ไฟแนนเชียล ยูนิเวิร์ส มีอยู่ 3 อย่าง คือ
1. กฎหมาย กฎหมายในยุคใหม่เป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการ ไม่ให้พะรุงพะรังมากไปและผู้ควบคุมกฎต้องไม่ทําตัวเป็น”คุณพ่อแสนรู้” โดยเสนอให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีคริปโทจากนักลงทุนและผู้ประกอบการ
2. การแข่งขัน เทคโนโลยีใหม่มาแล้ว แต่ดันเกิดความเหลื่อมล้ำ วัตถุประสงค์ของการจัดงาน “FINVERSE New Economic Forum” จึงเป็นการให้โอกาส สำหรับคนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยียุคใหม่ งานยุคเก่าตายไป ขณะที่งานยุคใหม่เกิดขึ้นมากมาย มีตัวแทนจากหลายบริษัท ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ และมาออกบูธ และมาพร้อมกับโอกาสสำหรับคนที่กำลังหางาน
3. ความคิดสำคัญที่สุด คือ ตัวชี้วัดต้อง บาลานซ์กันทั้งด้านปริมาณและด้านคุณภาพ
+ความเหลื่อมล้ำพูดง่ายแก้ยาก
เรื่องของความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องที่ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ให้ความสำคัญ และหวังว่าการจัดงานครั้งนี้ ที่ทีมเศรษฐกิจทันสมัย ของพรรคประชาธิปัตย์ จัดขึ้นนั้น จะทำให้เศรษฐกิจยุคใหม่ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนตัวใหญ่ๆ แต่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจสำหรับคนทุกคน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้ เรื่องนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง โดยใช้งานนี้เป็นจุดเริ่มต้นดี ที่จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการลดความเหลื่อมล้ำ
+เพราะเข้าใจ “คนยิ่งจน ยิ่งจ่ายแพงกว่า”
ปริญญ์ พานิชภักดิ์ เล่าต่อว่า คนยิ่งจนยิ่งจ่ายแพง เพราะต้นทุนของเงิน ดอกเบี้ย ราคาของเงิน ใครเป็นผู้ประกอบการจะทราบดี ไปกู้สินเชื่อจากธนาคาร ธนาคารปล่อยเงินเชื่อไหม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เรามีหลายบริษัท ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ เรื่องการระดมทุนผ่านบล็อกเชน แพลตฟอร์มดิจิทัลแบบ P2P (Peer-to-Peer) ทำอย่างไร และมาสอนให้ทำ ทำไมการระดมทุนยุคใหม่ ไม่ต้องผ่านตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องผ่านธนาคารพาณิชย์ ใช้ระบบบล็อกเชน ระบบสินทรัพย์ดิจิทัลยุคใหม่ทำอย่างไรได้บ้างที่นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจไทยได้
+ความทรงจำในยุคเก่าสู่ความคลาสสิคบนแพล็ตฟอร์มยุคใหม่ของไปรษณีย์ไทย
ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ยังได้เล่าถึงการเลือกสถานที่จัดงานที่ไปรษณีย์ไทย เพราะมีความร่วมสมัย อาจเป็นสถานที่ที่ทุกคนคิดว่าอยู่มานานน่าจะมีความโบราณ แต่จริงแล้วไม่ใช่ นึกย้อนถึงตอนเด็กๆ ที่ทุกคนและผมสะสมแสตมป์ เพราะ “คุณพ่อ ศุภชัย พานิชภักดิ์” ซึ่งได้มาให้กำลังใจในงานครั้งนี้ด้วย ก็ชอบสะสมแสตมป์เหมือนกัน แต่วันนี้ไปรษณีย์ไทยกำลังจะทำ NFTs คือศิลปะดิจิทัล ซึ่งภายในงานก็มีการบอกเล่าถึงเรื่องนี้ด้วย
นอกจากนี้ในงาน “เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอแนวคิด Bkk Coin หนุนคนกรุงเทพฯ ทำดี รับเหรียญสวัสดิการ ต่อยอดให้เป็นเมืองสวัสดิการทันสมัยด้วย