SMEs เฮ! รับของขวัญปีใหม่ 8.2 พันล้านจากรัฐบาล

30 ธ.ค. 2564 | 09:10 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ธ.ค. 2564 | 16:47 น.

นายกรัฐมนตรี สั่งจ่าย 8.2 พันล้านบาท เงินอุดหนุนโครงการช่วย SMEs เป็นของขวัญผู้ประกอบการก่อนปีใหม่จากรัฐบาล

วันที่ 30 ธันวาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยนายจ้างสถานประกอบการขนาดเล็ก - กลางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด

 

ในช่วงที่ผ่านมาจึงสั่งการกระทรวงแรงงาน เร่งดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนตามโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs งวดเดือนธันวาคม 2564 ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 64 เพื่อให้นายจ้าง สถานประกอบการ มีเงินอุดหนุนจากภาครัฐไปเสริมสภาพคล่อง เป็นทุนหมุนเวียนในการขับเคลื่อนกิจการรับปีใหม่ 2565 ที่กำลังจะมาถึง 

“ในรอบอุดหนุนงวดแรกเดือนพฤศจิกายน 2564 เรามีการแบ่งจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 2 รอบ หากเป็นบัญชีธนาคารกรุงไทยนายจ้าง จะได้รับเงินวันที่ 30 ของเดือน แต่หากเป็นบัญชีธนาคารอื่นๆ จะได้รับเงินวันที่ 2 ของเดือนถัดไป"

 

หลังจากนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ นายสุชาติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เร่งเตรียมการทันที ถือเป็นของขวัญปีใหม่เล็กๆน้อยๆเพื่อกลุ่มธุรกิจ SMEs อีกชิ้น 

ในวันที่ 30 ธ.ค. 64 กระทรวงแรงงานจะจ่ายเงินอุดหนุนแก่นายจ้าง สถานประกอบการ จำนวน 182,312 ราย ที่มีลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 2,739,797 คน เป็นยอดเงินอุดหนุนทั้งสิ้น 8,219,391,000 บาท (แปดพันสองร้อยสิบเก้าล้านสามแสนเก้าหมื่นหนึ่งพันบาท) โดยนายจ้างสถานประกอบกลุ่มนี้ ยังเหลือการรับเงินอุดหนุนในเดือนสุดท้าย งวดเดือนมกราคม 2565 อีก 1 งวด 

 

นอกจากนี้ หากมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินส่งเสริมการจ้างงานใหม่ จำนวน 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน ตามจำนวนการจ้างงานจริงโดยให้สิทธิ์ 1 ลูกจ้าง ต่อ 1 นายจ้าง จนครบตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการเดือนละไม่เกิน 201,647 ราย ซึ่งจากวันที่ 16 ต.ค. – 30 ธ.ค. 64  มีการจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 61,571 คน แบ่งเป็นกิจการขนาดเล็ก (ลูกจ้าง 1 - 50 คน) จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มขึ้น 42,770 คน กิจการขนาดกลาง (ลูกจ้าง 51 - 200 คน) จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มขึ้น 18,764 คน และกิจการที่เดิมจ้างเฉพาะแรงงานข้ามชาติ มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่ม 37 คน

 

ประเภทกิจการที่มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่ม 5 อันดับแรก ได้แก่ ประเภทกิจการโรงแรม รีสอร์ท ประเภทกิจการรักษาความปลอดภัย ประเภทกิจการบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคารประเภทกิจการบริการด้านอาหารในภัตตาคารร้านอาหาร และประเภทกิจการร้านสะดวกซื้อมินิมาร์ท   

 

 

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับสถานประกอบการที่ยังไม่ได้รับเงิน โดยมีสาเหตุจาการโอนเงินไม่สำเร็จ ด้วยปัญหาบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 6 เดือน  บัญชีปิดแล้ว บัญชีติดเงื่อนไขในการโอนเงินเข้า บัญชีเงินฝากแบบพิเศษไม่สามารถรับเงินจากการโอนได้ บัญชีเงินฝากแบบประจำไม่สามารถรับเงินจากการโอนได้ บัญชีตั้งเงื่อนไขจำนวนเงินในบัญชีต้องไม่เกิน 1,000 บาท และหมายเลขบัญชีไม่ถูกต้อง นายจ้าง สถานประกอบการต้องติดต่อธนาคารสาขาที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบ แก้ไข หรือติดต่อสอบถาม ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานเพื่อปรับปรุงข้อมูล หรือแนบรายละเอียดเพิ่มเติม  อีกครั้งในวันเปิดทำการ 4 มกราคม 2564 เป็นต้นไป