แหล่งข่าววงการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ข่าวช็อกตลาดโลก ทำ "ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์" ร่วงลงปิดในแดนลบจากความร้อนและความแห้งแล้งที่บรรเทาลงจากฝนที่ตกลงมาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีคาดการณ์ว่าผลผลิตในทวีปอเมริกาใต้อาจจะลดลงจากภัยแล้งที่ยาวนาน, กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของจีนมีแนวโน้มอนุมัติ GMO Corn 7 สายพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิตและเป็นการรองรับความมั่นคงทางอาหารของประเทศ
โดย 3 สายพันธ์พัฒนาโดยบริษัทเมล็ดพันธ์ของจีนมุ่งเน้นให้ต้นข้าวโพดมีความต้านทานต่อแมลงมากขึ้นซึ่งที่ผ่านมาผลผลิตข้าวโพดของจีนต่ำกว่าของสหรัฐด้วยขาดเทคโนโลยีในการเพาะปลูกและต้านทานแมลงได้น้อยกว่า
ส่วน "ถั่วเหลือง" ปิดตัวลงในแดนลบจากแรงขายออกทำกำไร หลังจากสัญญาขยับพุ่งขึ้นจากความกังวลต่อสภาพอากาศแบบ ลานีญา ที่ทำให้เกิดสภาพคมแห้งแล้งในอาเยนตินาและภาคใต้ของบราซิลยาวนานมากขึ้น
อย่างไรก็ตามฝนที่ตกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ทำให้อากาศร้อนและแห้งแล้งบรรเทาลง คาดว่าจะมีต้นข้าวโพดและถั่วเหลือง 10-15% เสียหาย, บวกกับราคาน้ำมันปาล์มในตลาดอินโดนีเซียที่สูงขึ้นหนุนราคาน้ำมันถั่วเหลืองในขยับพุ่งขึ้น
ส่วน “ข้าวสาลี” สัญญาปิดตัวลงในแดนลบนำตลาดต่อและทำให้ราค1ปีดต่ำกว่า $8/BU อีกครั้งหนึ่ง แม้ยอดคาดการณ์ขายส่งออกในสัปดาห์ที่แล้วจะดีกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าอีกทั้งรัสเซียขยับขึ้นภาษีส่งออกข้าวสาลีแล้วก็ตาม, นักลงทุนจับตาผลผลิตข้าวสาลีซึ่งพบว่ายูเครนปลูกwinter wheat
สำหรับฤดูนี้ได้เพียง 94% ของพื้นที่เนื่องจากความแห่งแล้งของดินที่ไม่มีหิมะตกลงมาช่วยดังเช่นทุกปี (ยูเครนปลูกข้าวสาลีเป็นลำดับที่ 7 ของโลก แต่ส่งออกมากเป็นลำดับที่ 4 ในขณะที่ภัยแล้งก็คุกคามพื้นที่ปลูก winter wheat ของสหรัฐ โดยยังมีหิมะตกไม่มาพพอที่จะให้ความชุ่มชื้นกับผีนดิน