ทุ่ม100ล้าน พลิกโฉมบขส.2โคราช ผุด‘พาข้าว’ จุดพักรถอีสาน

“ไทยสงวน” ยกระดับสถานีขนส่งโคราช ผุดบิ๊กโปรเจ็ค “พาข้าว” คอมมูนิตี้มอลล์ บนพื้นที่ 7 ไร่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 100 ล้าน ดึงพันธมิตรแบรนด์ดังและท้องถิ่นร่วมเติมเต็มพื้นที่ หวังให้เป็นจุดแวะพักรถของนักเดินทางที่โมเดิร์นที่สุด

 

ด้านในมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่จอดรถ อาหาร ที่นั่งพักชิล ๆ สถานีชาร์จแบตฯ เน้นการตกแต่งกลิ่นไออีสาน นำลายผ้าขาวม้าผสมผสานอย่างทันสมัยลงตัว เผยเป็นอาคารประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดให้บริการ 24 ชม. คาดแกรนด์โอเพนนิ่งกันยายน 2565 นี้

นายศรรบ หล่อธราประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยสงวนโภชนา จำกัด และ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ผู้บริหารสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นครราชสีมา แห่งที่ 2 (บขส.2) เปิดเผยว่า กลุ่มไทยสงวนได้ทุ่มงบประมาณ 100 ล้านบาท ยกระดับสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

 

โดยการพัฒนาพื้นที่ด้านหน้าสถานีขนส่ง ริมถนนมิตรภาพโคราช-หนองคาย จำนวน 7 ไร่ จากทั้งหมด 30 ไร่ เพื่อทำเป็น จุดพักรถ (Rest Area) ที่ทุกคนต้องแวะ จึงทำโครงการ “พาข้าว” ขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนเดินทาง ซึ่งโคราชเป็นเมืองหน้าด่านประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเมืองผ่านไปยังจังหวัดต่างๆ ที่สำคัญของอีสาน

“พาข้าว” จะเป็นจุดที่นักเดินทางจะต้องเข้า มาเช็คอิน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น หรือแม้แต่ชาวโคราชที่มารอขึ้นรถที่สถานีขนส่ง ก็สามารถมาใช้บริการหรือมาเช็คอินที่แห่งนี้ได้เช่นกัน

 

สำหรับ “พาข้าว” เป็น คอมมูนิตี้มอลล์ (Community mall) หรือ ศูนย์การค้าชุมชน ที่ให้บริการสินค้าและบริการทั่วไป มีความหลากหลาย เน้นการสร้างบรรยากาศและ lifestyle ภายใต้ธีมที่สื่อให้เห็นถึงสำรับอาหารของคนอีสาน เหมือนขันโตกของทางภาคเหนือ หรือเหมือนกระด้ง อาคารจะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เป็นอาคารชั้นเดียวตกแต่งให้มีกลิ่นไอของอีสานสไตล์โมเดิร์น โดยใช้ลวดลายผ้าขาวม้าและเมล็ดข้าวสารเป็นสื่อ

ภายในพื้นที่มีที่จอดรถได้ 200 คัน มีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ( EV Charger Station) 2 สถานี มีร้านอาหารชื่อดังในโคราช ที่สะอาดถูกหลักอนามัยและมีความหลายหลาย กว่า 20 ร้านค้าเข้ามาเปิดให้บริการ อาคารจะถูกออกแบบเป็นทรงกลมเหมือนพาข้าว ขณะที่ด้านบนอาคารติดตั้งโซลาร์รูฟ เป็นมิตรกับสิ่งแวด ล้อม บริเวณรอบๆ มีความร่มรื่นมีต้นไม้สวยงาม

 

ส่วนร้านชื่อดังที่ตอบรับจะเข้ามาเป็นพันธมิตรแล้ว คือ ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น KFC ในรูปแบบ Stand alone ร้าน Cafe Amazon จะเป็นอาคาร 2 ชั้น เป็นรูปแบบ Co-working Space มีฟู้ดคอร์ท รวมทั้งครั้งนี้จะเป็นการกลับมาของ “สวนผัก” ร้านอาหารในเครือไทยสงวนที่ หายไปกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของชาวโคราช โดยจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารแบรนด์ดังอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการเจรจาตกลง ซึ่งต้องการให้ร้านอาหารท้องถิ่นของโคราชที่มีชื่อเสียงมาอยู่ด้วยกัน

 

นายศรรบ กล่าวอีกว่า โครงการ “พาข้าว” ได้เริ่มทำการก่อสร้างมาแล้วกว่า 3 เดือน คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในเดือนกันยายน 2565 นี้ และมั่นใจว่า “พาข้าว” จะตอบโจทย์คนเดินทางได้อย่างแน่นอน เชื่อว่าในปี 2565 ภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง โดยคนไทยรู้จัดการป้องกันตนเอง ขณะที่ภาครัฐก็เร่งระดมการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้มากแล้ว

 

ซึ่งธุรกิจเดินรถโดยสารประจำทางเอง จะเปิดการเดินรถได้ตามปกติ และผู้ประกอบการที่ประคองตัวเองมาได้ถึงทุกวันนี้ ก็มีการปรับตัวรับกับการเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้นได้แล้ว

นอกจากโครงการ “พาข้าว” ของกลุ่มไทยสงวนแล้ว ธุรกิจโคราชกลับมาเปิดอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง อาทิ สวัสดีราษฎร์ คลินิกเวชกรรม ที่ใช้งบกว่า 100 ล้านบาท ปรับศูนย์ประชุมโรงแรมวีวัน เป็นศูนย์การแพทย์ทางเลือกแห่งใหม่สุดทันสมัย ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2564

 

ขณะที่ตลาดแนวใหม่ “เมย์แฟร์ มาร์เก็ต” ของโครงการเดอะลิ้งค์ เพื่อปั้นย่าน New CBD ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของโคราช ทยอยเปิดร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ต่อเนื่อง ล่าสุดคือร้านอาหารปิ้งย่างเกาหลี “โมซิม” และ ร้าน “จับปูกัน” ต่อเนื่องจาก “ทาเคชิ โกลด์” ร้านบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นพรีเมียมใหญ่สุดในอีสาน

ฉัตรสุรางค์ กองภา/รายงาน

หน้า 11 หนังสิอพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,747 วันที่ 9-12 มกราคม พ.ศ.2565