1 ปีรัฐบาลประยุทธ์ สอบตกแก้ปัญหา SME เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน

08 ม.ค. 2565 | 06:28 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ม.ค. 2565 | 13:54 น.

หลังจากที่รัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้บริหารประเทศมาครบอีก 1 ปีในปี 2564 ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศที่ยังคงมีการระบาดเป็นระลอก แต่ลดความรุนแรงของจำนวนผู้เสียชีวิตลง จากมีการระดมฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เป็นตัวช่วย

 

ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” ได้สอบถามผู้นำภาคเอกชนเพื่อสะท้อนมุมมอง 1 ปีของการบริหารประเทศของรัฐบาล ว่ามีผลงานอะไรที่สอบผ่าน หรือเข้าตากรรมการ และที่ยังสอบไม่ผ่าน พบหลายเรื่องที่ได้รับคำชื่นชม และมีหลายเรื่องเช่นกันที่ยังไม่เข้าเป้า และต้องเร่ง

 

โดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยให้ความเห็นว่า ปี 2564 ที่ผ่านพ้นไปถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทาย จากการระบาดของโควิด-19 เมื่อกลางปีจนนำไปสู่การล็อกดาวน์ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศประมาณ 1 ล้านล้านบาท ขณะที่รัฐบาลได้ประกาศแผนการจัดหาและฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสภายใน ปี 2564 เป็นเรื่องที่ต้องชื่นชมว่าวันนี้สามารถบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศ และยังมีแผน Boost เข็ม 3 เพิ่มเติม เพื่อการป้องกันการระบาดของสายพันธุ์ใหม่

 

สนั่น  อังอุบลกุล

 

 

หากพิจารณาในรอบปีมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ดี เช่น ด้านการส่งออกที่สามารถผลักดันการขยายตัวเกินเป้าหมาย จากที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้เมื่อต้นปีที่ 4% แต่สุดท้ายแล้วทั้งปี 2564 น่าจะขยายตัวได้ถึง 15% ตรงตามที่ภาคเอกชนคาดการณ์ไว้

 

ด้านการท่องเที่ยวจากการรัฐบาลที่มีมาตรการออกมาช่วยเหลือทั้งโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการ “ประชุมช่วยชาติ” และได้รับการตอบรับจากประชาชนในการใช้มาตรการโดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา การเดินทางในประเทศกลับมาคึกคักมากขึ้น แต่ในฝั่งผู้ประกอบการยังคงฟื้นตัวได้ช้า เพราะกระทบหนักจากการล็อกดาวน์และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศยังน้อย

 

 

1 ปีรัฐบาลประยุทธ์ สอบตกแก้ปัญหา SME เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน

 

 

หลังจากนี้สายพันธุ์โอมิครอนจะเป็นความท้าทายใหม่สำหรับภาคการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงการดูแลการจ้างงานซึ่งจะช่วยประคองผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ โดยปี 2565 ประเมินสถานการณ์ว่าไตรมาสแรกอาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อย ๆ ทยอยเข้าประเทศและหากสถานการณ์โอมิครอนคลี่คลายลงจะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยคงคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวไว้ที่ 5-6 ล้านคน

 

ด้านปัญหาปากท้องลดค่าครองชีพประชาชน ถือว่ารัฐบาลทำมาได้ดีในระดับหนึ่ง หลายโครงการมีเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการที่ดี เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ตอบโจทย์ประชาชนและผู้ประกอบการซึ่งช่วยให้เม็ดเงินกระจายสู่พื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ลดค่าครองชีพและกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงที่มีการนำมาตรการมาใช้พบว่า เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัดโดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวหลักๆ เช่น ภูเก็ต กระบี่ พัทยา เลย เขาใหญ่ สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการใน Supply Chain ทั้งนี้ ภาคเอกชนเห็นว่า หลายมาตรการที่กล่าวมามีส่วนช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นผลเป็นรูปธรรม

 

อย่างไรก็ตาม หลายมาตรการที่รัฐบาลได้นำเสนอออกมาไม่เข้าเป้าและไม่สามารถช่วยผู้ประกอบการได้เท่าที่ควร จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับสภาพปัญหาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น มาตรการเยียวยาทั้งผู้ประกอบการและประชาชน หลายเรื่องเป็นแนวคิดที่ดี แต่ติดขัดขั้นตอนการปฏิบัติจนทำให้เสียโอกาสในการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย เช่น โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้, โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ โครงการสินเชื่อซอฟต์โลน โดยที่ SME เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนเท่าที่ควร หากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สามารถยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วน และลดขั้นตอนพร้อมกฎระเบียบที่ไม่จำเป็นลง จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME กลับมาฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการรักษาการจ้างงานด้วย

 

เกรียงไกร  เธียรนุกุล

 

ส่วนนายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (ส.อ.ท.) มองว่า โครงการที่รัฐบาลทำได้ดีและเห็นผลรูปธรรม เช่น โครงการประกันรายได้ โครงการคนละครึ่ง ส่วนการจัดหาและฉีดวัคซีนช่วงแรกๆ มีความล่าช้า แต่ ณ วันนี้ก็สามารถฉีดได้ครบ 100 ล้านโดสแล้วตามเป้าหมาย

 

ชัยชาญ  เจริญสุข

 

สอดคล้องกับนายชัยชาญ   เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ที่ระบุว่า การจัดหาและฉีดวัคซีนปีที่ผ่านมาช่วงแรก ๆ รัฐบาลสอบไม่ผ่าน เพราะตั้งหลักได้ช้า และการคัดเลือกยี่ห้อวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนยังมีประสิทธิภาพที่ดีนัก แต่ช่วงหลังรัฐบาลก็ปรับแผนเรื่องวัคซีนได้ดี มีความหลากหลายยี่ห้อและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ที่ยังสอบไม่ผ่านคือการแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอี เป็นต้น

 

อย่างไรก็ดีผู้นำสถาบันหลักภาคเอกชนได้ให้มุมมองที่สอดรับกันในเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการในปี 2565 เพื่อให้เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวต่อเนื่อง เช่น การเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิในเข็มที่ 3 (เข็มบูสเตอร์) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนไทยในการป้องกันเชื้อโควิด การเตรียมงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อใช้เยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ขณะที่โครงการช้อปดีมีคืน โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกันเป็นเพียงมาตรการที่จะขยายเฟสดำเนินการเพิ่มในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้เท่านั้น รัฐบาลน่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมมาอีกในไตรมาสที่ 2-4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง

 

1 ปีรัฐบาลประยุทธ์ สอบตกแก้ปัญหา SME เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน

 

นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SME กลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รัฐบาลจะต้องมีมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายและสะดวก ลดกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคให้มากขึ้น เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศเป็นรายย่อย หากไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้จะกระทบต่อการฟื้นตัวของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

มุมมองและเสียงสะท้อนจากภาคเอกชน 1 ปีผลงานรัฐบาล เรื่องสอบผ่านและเรื่องที่ทำได้ไม่เข้าเป้าเหล่านี้รัฐบาลต้องรับฟังและนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมในปี 2565 นี้ เพื่อเคลื่อนประเทศไทยให้ดีกว่าเก่า