นายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแลดล้อม(ทส.) โพสต์เฟซบุ๊ก วันที่15มกราคม จากการลงพื้นที่ติดตามการเฝ้าระวังไฟป่าฤดูแล้ง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ระบบ"คาร์บอนเครดิต" สร้างรายได้ด้วยเศรษฐกิจสีเขียว จากการอนุรักษ์ผืนป่า ที่โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมาจากพระราชดําริ อ.แม่สอด จ.ตาก
โดยระบุว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังไฟป่าฤดูแล้ง พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการบำรุงรักษาต้นไม้ทรงปลูกสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี การดำเนินงานเรือนเพาะชำกล้าไม้ และแปลงปลูกต้นไม้ และให้กำลังใจ
ชุมชนกลุ่มสร้างป่าสร้างรายได้จากในพื้นที่ เช่น กลุ่มบ้านร่มเกล้าสหมิตร บ้านขุนห้วยแม่สอด บ้านแม่ละเมา และเยาวชนรักษ์พงไพร ณ พื้นที่โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
พื้นที่โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมาจากพระราชดําริ อ.แม่สอด จ.ตาก และพื้นที่บริเวณโดยรอบ เป็นพื้นที่ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ฟื้นฟูสภาพป่า ภายหลังการทำเหมืองตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในรูปแบบต่าง ๆ ตามแผนแม่บทโครงการ ฯ
ของสำนักงาน กปร. และตามกรอบการออกแบบการจัดสร้างสวนพฤกษศาสตร์ ของคณะที่ปรึกษาอนุกรรมการจัดสร้างสวนพฤกษศาสตร์ รวมถึงสนองแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยรวบรวมพรรณไม้หายากในท้องถิ่นจากผืนป่าตะวันตกและที่มีอยู่แถบใกล้เคียง มาปลูกในสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนและผู้ที่สนใจ
จากสภาพพื้นที่ป่าบริเวณโดยรอบของโครงการฯ ที่มีลักษณะค่อนข้างแห้งในช่วงฤดูกาลนี้ ผมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังสถานการณ์การเกิดไฟป่า และเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ ตลอดจนอุปกรณ์จำเป็นให้มีความพร้อมอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ในการดูแลรักษาป่าขอให้เน้นการสร้างความเข้าใจ และความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนโดยรอบพื้นที่ให้มาก เพื่อให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลอนุรักษ์ผืนป่า ที่เป็นแหล่งสร้างอาชีพและรายได้ของพวกเขา
เพราะจากนี้ไป คำว่า "ป่าชุมชน" จะมีความหมายมากขึ้น ต้นไม้นอกจากจะเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการเก็บของป่า ให้ความชุ่มชื้น และเป็นแหล่งต้นน้ำแล้ว ยังมีศักยภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สามารถนำไปขายสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่ง ขอให้หัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำชุมชน
ช่วยกันสร้างความรู้ความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่า คาร์บอนเครดิต คืออะไร สามารถซื้อขายกันได้อย่างไร เพื่อปลูกฝังให้คนในพื้นที่ดูแลรักษาต้นไม้ ยิ่งเรามีต้นไม้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีศักยภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และนำไปสร้างรายได้มากขึ้นเท่านั้น
"ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาป่า และขอเป็นกำลังใจให้คนในชุมชนทุกคนร่วมมือกันดูแลรักษาป่า เพราะไม่มีใครเข้าใจและดูแลผืนป่าได้ดีเท่าคนในพื้นที่ การที่จะดูแลรักษาต้นไม้ ลำธาร และต้นน้ำที่เป็นต้นชีวิตของทุกคนจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในทุกพื้นที่ เพื่อส่งต่อทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ไปยังรุ่นต่อๆไป เพราะเมื่อเราดูแลป่า ป่าก็จะกลับมาดูแลเรา"