แหล่งข่าววงการค้าเกษตร เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดชิคาโก หรือ Chicago Mercantile Exchang (CME) และ Chicago Board of Trade (CBOT) ตลาดชิคาโก รายงานสถานการณ์ ณ วันที่ 20 ม.ค. 2565 ตลาด ปิดไร้ทิศทาง แม้สภาพอากาศที่ร้อนขึ้นและฝนที่ตกในปริมาณจำกัดในภาคใต้ของบราซิล ปารากวัย, “ภาคเหนือ” ของอาร์เจนตินาในสัปดาห์จนต่อเนื่องไปต้นเดือนกุมภาพันธ์
รวมทั้งการเกิดพายุ t-storm (พายุฟ้าคะนอง) ในบางโอกาส ขณะที่ภาคกลางและภาคเหนือของบราซิลมีฝนตกซึ่งเป็นช่วงที่กำลังเก็บเกี่ยวถั่วเหลือง อาจสร้างความเสียหายอีกทั้งเกิดความล่าช้าหนุนราคาในตลาด, ข้าวสาลีปิดในแดนลบทั้งที่ปัจจัยความตึงเครียดของรัสเซีย-ยูเครนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและwinter wheat ของสหรัฐอาจเกิดความเสียหายจากกรณ์ winterkill
“ข้าวโพด” สัญญาส่งมอบเดือนมีนาคม นี้ ปิดได้ในแดนบวกเล็กน้อย ส่วนเดือนถัดไปปัดตัวลงในแดนลบ ขณะที่มีข่าวว่าแอฟริกาใต้ปลูกข้าวโพดล่าช้าด้วยเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ปลูกทำให้ 90% ปลูกไปแล้ว ส่วนที่เหลือยังรอให้ดินกลับมาแห้งเสียก่อน เช่นเดียวกับบราซิลที่รอให้เก็บเกี่ยวถั่วเหลืองให้เสร็จสิ้น จึงจะใช้พื้นที่นี้ปลูกข้าวโพดรุ่น 2 (Safrinha corn) ซึ่งได้มากถึง 2 ใน 3 ของผลผลิตรวมของบราซิล
“ถั่วเหลือง” สัญญาดีดตัวขึ้น 2.41% จากข่าวที่นเข้าไปเสนอซื้อถั่วเหลืองปี 2020/21 ของบราซิล ขณะที่บราซิล เพิ่งจะเริ่มเก็บเกี่ยวถั่วเหลือง ปี 2021/22 ในสัปดาห์ที่แล้วและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ยังไม่ถึง 5% เนื่องจากฝนตกลงในพื้นที่ปลูก,กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา หรือ USDA ได้ปรับลดผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลในรายงาน WASDE ฉบับวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาลง 5 ล้านตันอยู่ที่ 139.0 ล้านตัน
แต่ยังมากกว่าปีก่อนหน้า 1.0 ล้านต้น และปรับลดผลผลิตของอาร์เจนตินาลง 3.0 ล้านตันอยู่ที่ 46.5 ล้านตัน แต่ยังมากกว่าปีก่อนหน้าอยู่ 1.2 ล้านต้น ขณะที่นตัวเลขผลผลิตของจีนที่ 16.4 ล้านตันลดลงจากปีที่แล้วที่ได้ 19.6 ล้านต้น ทำให้นต้องนำเข้าถั่วเหลืองเพิ่ม รวมทั้งจัดหาพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองเพิ่ม และ USDA คาดการณ์ว่าจีนจะนำเข้าถั่วเหลืองปี 2021/22 ถึง 100.0 ล้านดัน
“ข้าวสาลี” สัญญาปรับตัวลดลงสู่แดนลบหลังจากเมื่อวานนี้ดีดตัวขึ้น 3.57% จากแรงขายออกทำกำไร แม้ Commodity Weather Group จะออกมาคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวสาลิ winter wheat ของสหรัฐมากถึง 20% จะประสบภาวะ winterkill ในสัปดาห์นี้จากพายุฤดูหนาว และ หิมะตกหนัก ที่จะก่อให้เกิดความแห้งแล้งอย่างหนัก อีกทั้งปัญหาความตึงเครียดระหว่างรัสเย-ยูเครน (ซึ่งส่งออกข้าวสาลีรวม 29%ของโลก) จะทวีความตึงเครียดมากขึ้นจนอาจถึงขั้นใช้กำลังทหารระหว่าง NATO กับรัสเซีย
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบเงินสกุลหลักทุกสกุลในการซื้อขายที่ตลาดปวรรตเงินตรานิวยอร์กขานรับแนงโน้มการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือน มี.ค.ศกนี้ แม้จะมีข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเผยแพร่ออกมาคือ ยอดขายบ้านมือสองของเดือน ธ.ค.ที่ลดลง 4.6% สู่ระดับ 6.18 ล้านยูนิตเมื่อเทียบรายเดือนและลดลง 7.1 เมื่อเทียบรายปี
รวมทั้งยอดแรงงานขอรับสวัสดิการจากการตกงานครั้งรกในสัปดาห์ที่แล้วสิ้นสุด ณ วันที่ 14 ม.ค.พุงขึ้นสู่ระดับ 286,000 รายสูงกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 225,000 รายและสงสุดนับแต่เดือน ต.ค. 2021 เป็นต้นมา
ส่วนดัชนีเฉลี่ยอุดสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,715.39 จุด ลดลง -313.26 จด หรือ -0.89%, ดัชนี S&P500 ปีดที่ 4,482. 73 จุด ลดลง -50.03 จุด หรือ-1.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,154.02 จุด ลดลง - 186.23 จุด หรือ -1.30% "ดัชนีตลาดหุ้น" ปิดตัวลงในแดนลบยกกระดานต่อจากเมื่อวานนี้ ตลาดยังกังวลต่อแนวโน้มที่เฟด จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.ศกนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ กทั้งถูกกดดันด้วยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออนแอที่เผยแพร่ออกมาในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WII ส่งมอบเดือน ก.พ.ลดลง -6 เซนต์ หรือ 0.1% ปีดที่ 86.90 ดอลลาร์/บาร์เรล น้ำมันดิบ WTI ปรับลดลงเล็กน้อยหลัง จากมีตัวเลขสต์อกน้ำมันบดิบในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มข้น 5 แสนบาร์เรลสวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 7 แสนบาร์เรล, ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT)ส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง -6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 88.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ลดลง -60 เซนต์ หรือ 0.03% ปีดที่ 1,842.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ทองคำปรับลดลงจากการแข็งค่ขึ้นของเงินดอลลาร์แต่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นของสเชีย-ยเครนทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่มั่นคงและปลอดภัย