นับถอยหลังไม่กี่วันจะถึงเทศกาล"ตรุษจีน 2565" ของคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นปีที่หนักหน่วงอีกปีท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19และสายพันธุ์โอมิครอน และยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเมื่อคนไทยต้องเจอกับสินค้าอุปโภคบริโภคต่างดาหน้าปรับราคาสูงอย่างต่อเนือง
เริ่มตั้งแต่เนื้อหมูที่ราคาพุ่งสูงไปแตะกิโลกรัมละ250บาท ตามมาไม่กี่วันราคาไข่ไก่ ที่รับขึ้นฟองละ20สตางค์ ถัดมาไก่เนื้อ ที่เริ่มทยอปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสินค้าอื่นๆไม่ว่าจะเป็นมะละกอ วัตถุดิบสำหรับเมนูยิดฮิตอย่างส้มตำก็ปรับราคาขึ้น น้ำมันปาล์มขวด หรือแม้แต่ของจำพวกกระดาษสำหรับไหว้เจ้าที่ทยอยปรับราคาเพิ่มขึ้นจากต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น
สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน 2565 ที่ประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อของสำหรับไหว้เจ้าจากการสอบถามร้านค้าต่างๆที่จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับตรุษจีน พบว่า ราคาสินค้าส่วนใหญ่ปรับขึ้นสูงถึง 40% และสินค้าอีกอย่างหนึ่งที่มีราคาสูงขึ้นตามการขนส่ง นั่นคือ "กระดาษเงินกระดาษทอง" ที่ใช้เผาสำหรับการไหว้ ขึ้นไปประมาณ 35-40%
ทั้งนี้เพราะเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศจีน สินค้าบ้างอย่างหมดสต็อก เช่น ชุดเสื้อผ้า และตระกูลแบงค์กงเต็ก ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ชุดไหว้เจ้า ต้นทุนปีที่แล้วอยู่ที่ 120 บาท แต่ปีนี้ราคาต้นทุนขยับสูงขึ้น มาเป็น 145 บาท
แต่อย่างไรก็ตามเพื่อรักษาลูกค้าและช้วยไม่ให้ลูกค้าต้องรับภาระมากเกินไป ร้านขายของไหว้บ้างร้านจะ ไม่ขึ้นราคา ยังคงจำหน่ายชุด 190 บาท เท่ากับปีที่ผ่านมา และค่อยขอลูกค้าขึ้นราคาในปีหน้าแทน
อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้าขาประจำ ยังคงซื้อสินค้าตามปกติ เนื่องจากเป็นเทศกาลปีละครั้ง แต่กลุ่มลูกค้าขาจร อาจจะลดปริมาณซื้อลงกว่าเดิม หรือ ซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
จากการตรวจสอบจากราคาในเว็บไซต์ตลาดใหญ่ๆ เปรียบเทียบราคาสินค้าช่วงปี2564กับปี2565 โดยในปี 2564 เนื้อสัตว์ พืช ผัก และผลไม้ พบว่า
ในขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ ผัก และน้ำมันพืช ช่วงเดือนมกราคม 2565 พบว่า
จะเห็นได้ว่า ราคาเนื้อหมู ทั้งสันในและสันนอก ปรับเพิ่มขึ้นถึง 62 บาทต่อกก. ส่วนหมูสามชั้น มีการปรับราคาสูงถึง 69 บาทต่อกก. เช่นเดียวกับน่อง-สะโพก ที่ปรับเพิ่มถึง8บาทต่อกก. และน้ำมันปาล์มขวดที่ปรับเพิ่มถึงขวดละ6.67บาท ในขณะราคาไข่ไก่เบอร์0