นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์พยามแก้ปัญหาราคาสินค้าที่สูงขึ้นทั้งการขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าและการเพิ่มสินค้าบางรายการเป็นสินค้าควบคุมเพื่อให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะราคาน้ำมันปาล์มขวดที่คาดว่าน่าปรับตัวสูงขึ้น 60-70 บาท ในขณะนี้เนื่องจากราคาผลผลิตปาล์มเพิ่มจากราคา 2 บาทกว่าต่อกิโลกรัมมาอยู่ที่ราคา 10-11 บาท
ซึ่งเกษตรกรได้ประโยชน์ แต่กระทบผู้บริโภคโดยได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งหาทางออกให้โดยเร็ว ยืนยันว่ารัฐจะไม่เข้าไปแทรกแซงโดยไม่จำเป็น และกระทรวงจะไม่เข้าไปชี้นำราคาตลาด เพราะจะกลายเป็นข้ออ้างในการปรับราคา ของเอกชน ซึ่งกระทรวงจะเน้นข้อความร่วมมือในการตรึงราคาจนกว่าราคาจะเข้าสู่สภาวะปกติ และทั้งนี้ยืนยันว่าจะยังไม่มีการนำเข้าน้ำปาล์มในขณะนี้เนื่องจากยังมีผลผลิตในประเทศ
กรมการค้าภายใน รายงานสต็อกปาล์ม ณ เดือน ธันวาคม2564 อยู่ที่ 170,000 ตัน ขณะที่ สำนักงานเศรษ,กิจการเกษตรหรือ สศก.คาดการณ์ผลผลิตปาล์มปีนี้อยู่ที่ 17 ล้านตัน ผลิตน้ำมันปาล์มดิบ หรือ CPO ได้ 3 ล้านตัน บริโภค ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปี 2564 แม้ปริมาณสต็อกจะเพิ่มขึ้นบ้างแต่ส่วนใหญ่จะปรับขึ้นมาในทิศทางที่ต่ำโดยเฉลี่ยไม่ถึง 2 แสนตันต่อเดือน
ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อความมั่นคงทางอาหาร หรือปริมาณสำรองระดับปลอดภัยสำหรับใช้เพียงพอใน 1 เดือน หรือเซฟตี้ สต็อกน้ำมันปาล์มไม่ควรต่ำกว่า 250,000-300,000 แสนตันต่อเดือน โดยพบว่า ณ เดือนธ.ค. 2564 คณะทำงานตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ ระดับจังหวัด ทำการสำรวจสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ล่าสุดในเดือนธ.ค. 2564 จากการลงพื้นที่สำรวจ 35 จังหวัด พบว่า น้ำมันปาล์มดิบ มีปริมาณ 161,092 ตัน ลดลงจากเดือนพ.ย.ที่เคยมีสต็อก 226,447 ตัน หรือลดลง 28.86%