นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนที่ราคาสินค้าในหมวดอาหารจะมีราคาสูงขึ้นและปีนี้มีราคาสูงที่สุดหากเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าหมวดจำเป็นทุกหมวด ซึ่งอย่างน้อย 7 หมวดสินค้าสำคัญตรึงราคาไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็น 1.หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.หมวดน้ำอัดลม 3.หมวดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4.หมวดซอสปรุงรส 5.นมและผลิตภัณฑ์จากนม 6.หมวดอาหารกระป๋อง 7อาหารสด
โดยมั่นใจว่า หลังตรุษจีนราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะเริ่มทยอยปรับราคาลง เช่นราคาไข่ไก่ มีราคาลดลงกว่าราคาที่กรัทรวงพาณิชย์ตรึงไว้ที่ไม่เกินฟองละ 2.90 บาทและราคาไข่ไก่เบอร์ 3 จำหน่ายปลีกฟองละไม่เกิน 3.50 บาท ปรากฏว่าราคาเฉลี่ยของไข่ไก่ทั่วประเทศลดลง 7% จากราคาที่กำกับเหลือเฉลี่ย ฟองละ 3.39 บาท
ส่วนเนื้อหมู ราคาหน้าฟาร์มไว้ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท ราคาหมูเนื้อแดงมาตรฐานกลางมีราคาต่ำกว่าราคาที่ตรึงไว้เฉลี่ย 11% จากราคาที่ 205-210 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเฉลี่ยทั่วทั้งประเทศที่ 187.19 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้กรมการค้าภายในวิเคราะห์ว่าหลังตรุษจีนราคาเนื้อสุกรอาจจะมีแนวโน้มลดต่ำลงได้อีก และสินค้าอาหารด้านประมงนั้นพบว่าส่วนใหญ่ราคาต่ำลง เช่น ปลานิล ราคาลดลง 11% อยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 55-65 บาท ปลาทับทิมราคาลดลง 3% มีปลาดุกที่ราคาเพิ่มขึ้น 3%
สำหรับราคาไก่ ปกติจะสูงขึ้นมากในช่วงตรุษจีนยังทรงๆตัว ส่วนราคาผัก จากการติดตามของพาณิชย์จังหวัดทั่วทั้งประเทศพบว่าราคาผักลดลงทุกตัว ผักคะน้าลดลงจากช่วงที่สูงสุด ช่วงก่อนปีใหม่จนถึงตรุษจีน ลดลงเฉลี่ย 44% ถั่วฝักยาว ลดลง 13% กะหล่ำปี ลดลง 32% กวางตุ้ง ลดลง 26% ผักกาดขาว ลดลง 63% ผักบุ้งจีน ลดลง 36% ต้นหอม ลดลง 52% ผักชี ลดลง 79% และมะนาวเบอร์ 1-2 ลดลง 17% เฉลี่ยถูกกว่าช่วงที่ขึ้นไปสูงถึง 40%
อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์จะเชิญผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาหารือเพิ่มเติมในสินค้าบางหมวดที่คิดว่ายังจำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคของพี่น้องประชาชน เพื่อตรึงราคาสินค้าให้นานที่สุดและให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคสูงสุดต่อไป ส่วนงบกลางที่ขอครม.เพื่อนำมาใช้ในโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 17 นั้น ยังไม่ลงมาแต่ทางกระทรวงจะใช้วิธีบริหารจัดการการลดราคาช่วยประชาชนโดยเน้นความร่วมมือต่อเนื่องจากโครงการเดิมทั้งหมูลดราคาและโมบายพาณิชย์ โดยพยายามจะไม่ให้ขาดตอนเพื่อพยุงราคาชี้นำตลาดหรือราคากำกับนี้ไปให้นานที่สุดจนกว่าจะคลี่คลาย