นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ ซึ่งมีคนไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายใช้สอยซื้ออาหารสดนำไปประกอบเป็นเครื่องเซ่นไหว้จำนวนมาก ทำให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น
โดยราคาสินค้าส่วนใหญ่มีราคาคงที่หรือเพิ่มเล็กน้อย ยกเว้นเนื้อหมูที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมการค้าภายใน ได้ขอความร่วมมือ ให้ผู้ประกอบการหมู ตรึงราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มในช่วงตรุษจีนให้ไม่เกิน กก. 100-110 บาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ กก.104 บาท
ขณะที่ราคาขายปลีกหมูเนื้อแดง ขายไม่เกิน กก. 205-210 บาท รวมถึงเนื้อไก่ ได้ร่วมมือกับห้างค้าปลีกในการตรึงราคาแล้วเช่นกัน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ
“แนวโน้มราคาหมูเนื้อแดงในท้องตลาดเริ่มทรงตัวและปรับลดลงแล้ว หลังจากกรมฯ ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกร โรงเชือด และห้างสรรพสินค้า แต่หากพบเห็นการขึ้นราคาในช่วงนี้ อย่างไม่มีเหตุผล ก็สามารถแจ้งเข้ามาที่กรมการค้าภายในได้ที่โทร 1569"
ขณะเดียวกันในการประชุมวอร์รูมดูแลราคาสินค้า ทางรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ยังได้ให้จัดตั้งชุดสายตรวจ 55 ชุด ออกตรวจสถานการณ์สินค้าทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
จึงขอเตือนผู้ค้า หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือ ขึ้นราคาสินค้าเกินสมควร จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด รวมถึงร้านค้าธงฟ้า หากพบมีการขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน จะถูกถอดสิทธิ์ทันที
ส่วนภูมิภาคมีผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดในฐานะหัวหน้าคณะทำงานวอร์ รูม ส่วนภูมิภาค จัดชุดสายตรวจโดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เป็นต้น ตรวจติดตามสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิด
ส่วน สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ยอมรับว่าปีนี้ราคาปรับตัวสูงขึ้นจริง ตามราคาผลปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้นไป กก.11 บาท แต่ตั้งแต่เดือนก.พ.-มี.ค.นี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น สถานการณ์น่าจะดีขึ้น และราคาจะเป็นไปตามกลไกตลาด
ที่ผ่านมาได้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง และขอความร่วมมือผู้ผลิต และห้างสรรพสินค้า ช่วยประคับประคองราคาไปก่อน ขณะเดียวกันยังได้หารือกับผู้ประกอบการผลิตน้ำมันถั่วเหลือง ขอให้ตรึงราคาขายไม่เกินขวดละ 55 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค