เปิดตัว "กล้าทิพย์" บริษัทนำร่องส่งออกข้าวไทย เป็นเจ้าแรก โดย “รถไฟจีน-ลาว”

31 ม.ค. 2565 | 14:17 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2565 | 21:30 น.

ถอดบทเรียน เปิดตัว "กล้าทิพย์" บริษัทนำร่องส่งออกข้าวไทย ไปจีน เป็นเจ้าแรก โดยขนส่ง “รถไฟจีน-ลาว” เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการข้าว ประเทศไทย

พีระพล ประเสริฐชัยกุล

 

นายพีรพล ประเสริฐชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บจก. กล้าทิพย์  ผู้ส่งออกข้าวไทยรายแรก ที่ใช้บริการขนส่งเส้นทางรถไฟ จีน-ลาว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่มีปัญหาในการส่งออกทางเรือ ตู้คอนเทนเนอร์ไม่เพียงพอ และก็พยายามหาวิธีการที่จะส่งให้ลูกค้าให้ทันกำหนดตามที่ลูกค้าต้องการให้ได้ ประกอบกับเส้นทางรถไฟฟ้า ไทย-จีน มีการเปิดใช้บริการ เส้นทาง ลาว-จีน  ก็เลยติดต่อไปที่ลูกค้าชาวจีนว่าสนใจหรือไม่ที่จะให้ขนส่งทางนี้ พอคุยแล้วลูกค้าสนใจจึงได้ร่วมกันหาทางส่งออกทางรถไฟ  เปลี่ยนจากเรือ เป็นระบบรางแทน

 

"โดยทางบริษัทให้ลูกค้าเป็นคนติดต่อ เพราะเนื่องจากเรื่องบุ๊กกิ้ง เพราะการขายข้าว เป็นลักษณะขายรูปแบบเทอม เอฟ.โอ.บี. คือ เราไม่รับผิดชอบเรื่องเรือ เรื่องค่าใช้จ่ายค่าขนส่งจากไทยไปจีน ลูกค้าจะเป็นคนรับผิดชอบ เมื่อมาเป็นทางรถไฟ ก็เป็นหน้าที่ของลูกค้าที่จะต้องไปจองตั๋วบุ๊กกิ้ง รถไฟ ซึ่งในส่วนของบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการในการลากตู้ และขนส่งไปจนถึงทาง สปป. ลาว"

 

เปิดตัว \"กล้าทิพย์\" บริษัทนำร่องส่งออกข้าวไทย เป็นเจ้าแรก  โดย “รถไฟจีน-ลาว”

 

ต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของลูกค้าแล้ว ที่จะไปทำการจองรถไฟกับสถานีรถไฟของจีน ว่าจะไปรถไฟขบวนไหนก็แจ้งมา พอลูกค้าจองมาแล้ว ก็ไปลากตู้มาบรรจุแล้วส่งไปทางเวียงจันทร์เท่านี้  โดยบริษัท จะบรรจุถุง 50 กก. แล้วนำขึ้นตู้ ก็ดำเนินการเหมือนกับขึ้นเรือทุกอย่าง แค่เปลี่ยนจากเรือเป็นรถไฟ เท่านั้นเอง

นายพีรพล  กล่าวว่า ในส่วนของลูกค้าชาวจีนได้ติดต่อกันมาเป็นลูกค้าประจำร่วม 10 ปี สาเหตุที่เปลี่ยนมาเป็นเส้นทางใหม่ ใช้รถไฟ เนื่องจากมีปัญหาตู้คอนเทรนเนอร์ไม่เพียงพอ รวมทั้งค่าระวางเรือปรับขึ้นมา 3-4 เท่า ประกอบกับลูกค้ามีความจำเป็นที่ต้องใช้ของ ด้วยความที่หาตู้ไม่ได้ และค่าระวางเรือก็แพงมาก ที่ว่างของเรือก็ไม่มี

 

เปิดตัว \"กล้าทิพย์\" บริษัทนำร่องส่งออกข้าวไทย เป็นเจ้าแรก  โดย “รถไฟจีน-ลาว”

 

“ทางเราได้ข่าวมาว่าทางรถไฟเพิ่งจะเปิดดำเนินการไม่นาน จึงเสนอให้ลูกค้าลองไปเช็คตาราง เส้นทางรถไฟ โดยให้ขนส่งเส้นทางนี้ได้หรือไม่  ประเมินกันว่าค่าใช้จ่ายน่าจะสูสีกับราคา แต่สินค้าอาจจะได้เร็วกว่า ส่วนเรือก็ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร วันไหน จึงตัดสินใจทดลองกันดู แล้วถ้าดี ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่จะใช้ส่งออกข้าวไปทางจีน”

 

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่าย และลูกค้าด้วยที่จะเลือกเส้นทางรถไฟจีน-ลาวหรือไม่ ว่าจะสะดวกหรือไม่ เพิ่งจะทำเป็นล็อตแรก แล้วของเพิ่งจะขึ้นรถไฟ ในวันที่ 28 มกราคม 2565 จะต้องดูว่าเคลียร์ของยากหรือไม่  ซึ่งการส่งยังไม่ถึงที่สุด ยังตอบไม่ได้ว่าดีกว่าหรือไม่ถ้าเปรียบเทียบกับเส้นทางเรือ

 

เปิดตัว \"กล้าทิพย์\" บริษัทนำร่องส่งออกข้าวไทย เป็นเจ้าแรก  โดย “รถไฟจีน-ลาว”

สำหรับการไปเส้นทาง "รถไฟจีน-ลาว"  มองว่าเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว เป็นอีกเส้นทางหนึ่งให้กับผู้ประกอบการได้ตัดสินใจว่าจะไปทางเรือก็ได้ จะไปทางรถไฟก็ได้ เป็นช่องทางหนึ่งในการขนส่งให้กับผู้นำเข้าและผู้ส่งออก เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายอนาคตหากมีการใช้บริการมากขึ้นก็คาดว่าจะราคาจะถูกลงไหม แต่ถ้าถูกลง ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าความจริงในสถานการณ์ปกติ ค่าขนส่งระวางเรือถูกที่สุดอยู่แล้ว

 

เปิดตัว \"กล้าทิพย์\" บริษัทนำร่องส่งออกข้าวไทย เป็นเจ้าแรก  โดย “รถไฟจีน-ลาว”

แต่เมื่อมาพิจารณาการขนส่งเส้นทางรถไฟ หากอนาคตมีมากขึ้น ทางรัฐบาลจีนมีการขนส่งมากขึ้น มีเที่ยวไป เที่ยวกลับ เยอะขึ้นอาจจะถูกลง ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งให้กับผู้ประกอบการ  แต่อีกด้านหนึ่งทางรัฐบาลไทย ทางรัฐบาล สปป.ลาว จะให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาลไทยมากน้อยแค่ไหน จากล็อตนี้สินค้าไปตกค้างที่ สปป.ลาว กว่า 10 วัน  เนื่องจากใหม่ความกังวลต่างๆ จึงใช้เวลานานในการตรวจ ต่างคนต่างใหม่ในเส้นทางดังกล่าวนี้ จึงทำให้ขรุขระ

 

ดังนั้นก็อยากเสนอให้ทางศุลกากรของไทยคุยกับทางศุลกากรฝั่ง สปป.ลาว สินค้าผ่านแดน หากศุลกากรตรวจฝั่งไทยแล้ว ทาง สปป.ลาว ก็ไม่ควรที่จะมาตรวจใหม่ ควรที่จะอำนวยความสะดวกนำสินค้าขึ้นรางแล้วต่อไปได้เลย  เพราะวัตถุประสงค์ของการขึ้นรถไฟก็คือต้องการความเร็ว