จากกรณีที่รัฐบาล วางแผนเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยคนละ 300 บาท หรือ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ในช่วงเดือนเม.ย.2565 เพื่อนำเงินที่ได้ไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศ
พร้อมทั้งนำไปทำประกันให้กับนักท่องเที่ยว กรณีประสบอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิต จะได้รับวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท หรือ ค่ารักษาพยาบาล ได้รับสูงสุด 5 แสนบาท โดยวางแผนเก็บรวมกับค่าตั๋วเครื่องบิน กรณีเดินทางทางอากาศนั้น
ล่าสุด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เมื่อสัปดาห์ก่อน ยืนยันเก็บจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวภายในปีนี้แน่นอน
แต่เลื่อนจากกำหนดเดิม ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มต้นจัดเก็บภายในเดือนเม.ย.นี้ ออกไปอีก 2 เดือน หรือจะเริ่มจัดเก็บได้ประมาณเดือนมิ.ย.นี้ เป็นต้นไป
สำหรับการดำเนินการในขณะนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด เพื่อ เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา จากนั้นจึงประกาศลงในในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ใน 90 วัน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในการดำเนินการส่วนนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.นโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2562 โดยช่วงแรกจะครอบคลุมเฉพาะการเดินทางผ่านทางเครื่องบินมาก่อน ขณะที่การจัดเก็บผู้เดินทางเข้าทางบกและทางน้ำ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างหารือ คาดว่า เร็ว ๆ นี้จะได้ข้อสรุป
สำหรับค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บ 300 บาท จะแบ่งเป็นเงินออกไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ดังนี้
1. จำนวน 50 บาท ไปจัดซื้อประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยว ครอบคลุม
ทั้งนี้ประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรกของโลกที่เก็บค่าธรรมเนียมแล้วมีสวัสดิการใหนักท่องเที่ยว
2.จำนวน 250 ล้านบาท จะนำเข้ามาเก็บไว้ในกองทุนนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ เพื่อพิจารณาว่าจะนำเงินไปใช้อะไรได้บ้าง เช่น นำไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะกรสร้างห้องน้ำให้ได้มาตรฐานตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ต่อไป