โครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทยประกอบด้วยอะไรบ้าง คงเป็นคำถามที่หลายคนเริ่มสงสัยมากขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวขึ้นไม่มีหยุดไปแล้วถึง 11 ครั้งตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลปีใหม่เป็นต้นมา
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้สืบค้นข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน พบว่า ในน้ำมันทุก 1 ลิตรนั้น จะประกอบด้วย
– ภาษีสรรพสามิต : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต นำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ
– ภาษีเทศบาล : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ในอัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิต ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต มาตรา 150 และจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น
– ภาษีมูลค่าเพิ่ม : จัดเก็บ 7% ของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดเก็บอีก 7% ของค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด
กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง : จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน : จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
ส่วนประกอบดังกล่าวทั้งหมดเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการปรับขึ้นและลงราคาน้ำมันภายในประเทศ
สำหรับสถานะสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565) ติดลบอยู่ที่กว่า 18,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบลดภาษีน้ำมันดีเซล โดยออกเป็นร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 20 พ.ค.2565
ในการดำเนินการก็เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ลดลงโดยตรง และสะท้อนไปยังราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ปรับลดประมาณ 3 บาทต่อลิตร
ด้านราคาน้ำมันขายปลีกล่าสุดทุกชนิดน้ำมัน ได้แก่
กลุ่มน้ำมันดีเซล
กลุ่มน้ำมันเบนซิน