ชาวระยองยังขวัญผวาซ้ำซาก ล่าสุด 17 ก.พ.2565 มีกระแสข่าวว่า บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ตรวจพบจุดรั่วใหม่ที่ท่อส่งน้ำมันใต้ทะเล ซึ่งอยู่ด้านบนจุดรั่วที่หนึ่ง และยังมีน้ำมันรั่วออกมาเป็นครั้งคราว
หลังจากวิตกกับ เหตุน้ำมันรั่วลงทะเลระยอง ครั้งแรกของรอบนี้ เมื่อ 25 ม.ค. 2565 โดยระดมเก็บกู้ได้ใน 1 สัปดาห์ จนเริ่มคลายกังวล แต่แล้วก็มีเหตุน้ำมันรั่วซ้ำเมื่อ 10 ก.พ. จากการลงไปตรวจซ่อมแล้วมีน้ำมันค้างท่อทะลักออกมา จนเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง กระทั่งพบจุดรั่วใหม่ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบล่าสุด SPRC มีหนังสือลงวันที่ 15 ก.พ.2565 ส่งถึงสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด จังหวัดระยอง อีกฉบับถึงเจ้าท่าจังหวัดระยอง แจ้งขอเจ้าหน้าที่ลงปฏิบัติงานพันท่อขนถ่ายน้ำมันใต้ทะเล เพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน โดยแนบหนังสือขั้นตอนหยุดการซึมของน้ำมัน และพันปิดรอยรั่วที่ท่ออ่อนใต้ทะเล โดยระบุว่าพบจุดรั่วใหม่ที่สอง อยู่บนจุดรั่วที่หนึ่ง และมีน้ำมันรั่วออกมาเป็นครั้งคราว
พร้อมระบุด้วยว่า ถ้ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่ออ่อน ก็มีความเสี่ยงที่น้ำมันจะรั่วไหลออกมา เมื่อเกิดคลื่นลมรุนแรง หรือในระหว่างถอดท่อที่เสียหาย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการต่อไป ในเอกสารบริษัทฯ ยังแจ้งด้วยว่า เพื่อรักษาและป้องกันความเสียหายของท่ออ่อน และป้องกันน้ำมันรั่วไหลสู่ทะเล จึงต้องนำวัสดุมาห่อหุ้มรอยรั่ว จุดที่สองโดยเร็ว
ซึ่งในระหว่างดำเนินการใช้วัสดุพันปิดห่อหุ้มรอยรั่วแห่งที่ 2 อาจเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงต้อง เตรียมรับมือ 6 มาตรการ คือ
ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รับว่าได้เกิดเหตุน้ำมันดิบของ SPRC ที่เหลือค้างท่อขนส่งใต้ทะเล รั่วซึมออกมาอีกรอบ โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่รั่วครั้งที่แล้ว โดยเหตุเกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ของ SPRC เข้าไปยกท่อ เพื่อนำขึ้นมาหาสาเหตุการแตกรั่วของท่อส่งน้ำมันดิบ ปรากฏว่าน้ำมันดิบที่หลงเหลืออยู่ค้างในท่อส่งได้รั่วซึมไหลออกมา
เบื้องต้นนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนปริมาณของน้ำมันที่รั่วไหลซึมออกมา มีมากน้อยเพียงใด และหลังเกิดเหตุได้มีการระดมกำลังคนแ ละอุปกรณ์เครื่องมือเข้าสกัดระงับเหตุทันที มีเรือจำนวน 32 ลำ วางแนวบูมล้อมรอบบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันคราบน้ำมันดิบแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง พร้อมใช้เรือดูด ตักคราบน้ำมันดิบที่ลอยอยู่ในทะเลแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังกล่าวตำหนิบริษัทฯเจ้าของน้ำมันดิบ ว่า เหตุครั้งนี้เกิดขึ้น เพราะบริษัทฯ ไม่มีมาตรการรัดกุมเข้าดำเนินการ อีกทั้งไม่มีการเตรียมแผนรองรับ จนปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ด้านผู้บริหาร SPRC ได้จัดประชุมผู้ได้รับผลกระทบที่หาดแม่รำพึงแล้ว 2 ครั้ง เพื่อรับฟังข้อมูลและหารือการให้ความช่วยเหลือ หรือการชดใช้ค่าเยียวยาสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำมันรั่วทั้ง 2 ครั้ง โดยรับปากจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยจะใช้หลักเกณฑ์กรณีน้ำมันรั่วปี 2556 เป็นแนวทาง และปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คาดจะสรุปหลักเกณฑ์ได้ภายในสัปดาห์นี้
ผู้ขอรับการเยียวยา 4 กลุ่ม คือ 1.ด้านการทอ่งเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร 2. กลุ่มประมง 3.กลุ่มทางด้านสาธารณสุข เช่น ผู้เจ็บป่วยจากการเล่นน้ำ ผู้ได้รับผลกระทบจากอาหารทะเล และ 4.กลุ่มอาชีพต่างๆ ซึ่งกลุ่มหลังนี้หากไม่มีการจดทะเบียน สามารถให้บุคคลที่น่าเชื่อถือได้เป็นคนรับรอง ก็จะเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือเยียวยาได้
ล่าสุด มียอดลงทะเบียนให้เยียวยาผลกระทบแล้วกว่า 7,600 ราย โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง จะเปิดรับจนกว่าจะหมด ไม่มีกำหนดปิด คาดอาจมียอดสูงทะลุ 10,000 ราย
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,759 วันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565