นายก้าน ประชุมพรรณ์ ซีอีโอ The Beach Group นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนา “เดอะบีช พลาซ่า กะตะ ภูเก็ต” เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนพื้นที่ขนาด 15 ไร่เศษ บริเวณหาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง ภูเก็ต
โดยเฟสแรกคืบหน้าไปมากแล้ว มีกำหนดส่งมอบลูกค้าพร้อมเปิดดำเนินการในเดือน ก.พ. 2566 ประกอบด้วยโรงแรม 4 แห่ง รวม 681 ห้อง พร้อมสปอร์ตคลับ เซิร์ฟบก และเวลเนสเซ็นเตอร์ หรือสหคลินิค เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพก่อนป่วย ทั้งด้านการแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน การดูแลสุขภาพทางเลือก ภายใต้แนวคิดศูนย์รวมด้านการดูแลสุขภาพ และ Green Mobility
สำหรับเฟส 2 มีแผนพัฒนาโรงแรมส่งเสริมสุขภาพเพิ่มอีก 5 แห่ง รวม 764 ห้อง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2567 ตามเป้าหมายทางการตลาดที่กลุ่มลูกค้าแจ้งมา เป็นการพัฒนาในรูปแบบ “โรงแรมกึ่งสำเร็จรูป” ที่ได้เคยบุกเบิกไว้
และได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างสูง จนเป็นต้นแบบของอุตสาหกรรม คือพัฒนาโรงแรมจนแล้วเสร็จ นักลงทุนสามารถหิ้วกระเป๋าเข้ามาเปิดทำธุรกิจได้ทันที โดยใน 2 เฟสแรกนี้มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท
ขณะที่เฟส 3 ส่วนหนึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2567 จะพัฒนาพื้นที่ในส่วนของอาคารที่จอดรถไว้รองรับโครงการมิกซ์ยูส การก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า (คอนเวนชั่น ฮอลล์) รวมทั้งดิจิทัล พาร์ค มิวเซียม เป็นดิจิทัล ธีม ปาร์ค
ที่จะดึงเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นแกนกลาง และพัฒนามานำเสนอในยุคดิจิทัล ในลักษณะเดียวกับที่สิงคโปร์พัฒนาเกาะเซนโตซาเป็นจุดขาย โดยให้เชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งมีจุดแข็งคือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ภูเก็ต บนพุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ต
นายก้าน กล่าวอีกว่า ได้ร่วมก่อตั้งบ.ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคม ทำให้ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ นักวิชาการ ตลอดจนภาคประชาสังคม ขยายมุมมองที่กว้างขึ้นสู่การพัฒนาเมือง ยกระดับจากการพัฒนาพ้นรั้ว “เดอะบีช พลาซ่า กะตะ ภูเก็ต” สู่โครงการพัฒนาเมือง หลังตกผลึกกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาเกาะภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวส่งเสริมสุขภาพ เชื่อมโยงกับหัวเมืองท่องเที่ยวอันดามัน ในการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส อันดามัน (Andaman Wellness Corridor : AWC)
จุดประกายขยายสู่การพัฒนาเฟส 4 การพัฒนาพื้นที่หาดกะตะ โดยจะผลักดันจับมือกับโครงการและชุมชนต่าง ๆ และร่วมกับหน่วยงานรัฐ ราชการในพื้นที่และส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันฟื้นฟูพัฒนาคลองที่ไหลผ่านลงหาดกะตะ ให้กลับมามีคุณภาพที่ดี ปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองให้สวยงาม ให้ทุกคนได้กลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง สร้างสุขภาวะแก่ชุมชน ในลักษณะเดียวกับการพัฒนาคลองชองกเยชอน กลางกรุงโซลของเกาหลีใต้
และเฟส 5 คือ การพัฒนาเส้นทางสู่องค์พระใหญ่บนยอดเขานาคเกิด ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ที่เรียกกันว่าเส้นทางมังกร ซึ่งจากการสำรวจตามแนวเส้นทางจากหาดกะตะถึงทางเข้าองค์พระใหญ่ เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ หรือป่าเสื่อมโทรม ไม่อยู่ในเขตป่าสงวนหรือที่ส.ป.ก. สามารถพัฒนาเป็นเส้นทางเคเบิลคาร์ให้นักท่องเที่ยวนั่งกระเช้าขึ้นไปสักการะพระใหญ่ได้ หรืออาจเป็นโครงการเอกชนร่วมลงทุนกับรัฐ (พีพีพี.) โดยเฟส 4 และ 5 คาดต้องลงทุนอีก 5,000 ล้านบาท
“การเปิดศูนย์อันดามันเวลเนสขึ้นที่ม.อ.ภูเก็ต กระทรวงอุดมศึกษาฯ (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)สนับสนุนงบประมาณ ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จัดอบรมผู้บริหารโรงแรมในภูเก็ตและย่านอันดามันและอ่าวไทยกว่า 120 แห่ง เข้าร่วมเป็นเครือข่ายโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hotel)
ล่าสุดครม.อนุมัติให้จังหวัดภูเก็ตจัด Specialised Expo 2028 Phuket หรือสเปเชี่ยลไลซ์ เอกซ์โป 2571 จึงเสนอตัวให้ “เดอะ บีช พลาซ่า กะตะ ภูเก็ต” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่อง กะรน เวลเนส แซนด์บ็อกซ์ (Karon Wellness Sandbox) เพื่อยกระดับอันดามันด้วยเวลเนส และการจะเป็นเจ้าภาพจัดสเปเชียลไลซ์ เอกซ์โป ภูเก็ต ซึ่งจะมีคนจากทั่วโลกมาชมงาน ต้องพัฒนาโครงการต่างๆ ไว้รองรอบ รวมทั้งรถกระเช้าขึ้นสักการะพระใหญ่ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมากดังกล่าว
"หลังโควิด-19โลกเปลี่ยน ภูเก็ตต้องเร่งปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง การท่องเที่ยวแบบเดิมที่ทำมาไม่ตอบโจทย์อีกแล้ว เราจึงมุ่งไปที่การท่องเที่ยวส่งเสริมสุขภาพ มาเที่ยวพักผ่อนแล้วได้สุขภาพที่ดีกลับไปด้วย เกิดความศรัทธา และท้ายสุดคือปัญญา ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ขับเคลื่อนภูเก็ตสู่แหล่งท่องเที่ยวระดับโลกในยุคใหม่ต่อไป โดยเริ่มต้นที่กะรน ถ้ากะรนรอบ ภูเก็ตก็รอด และภูเก็ตรอด ประเทสไทยก็รอดด้วย"นายก้านกล่าวทิ้งท้าย
ตามแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน(AWC) กำหนดให้คลองท่อม เป็นแหล่งสปาน้ำพุเค็ม เขาหลักเป็นเมืองเซิร์ฟ (Surf Town) และกะรนเป็นWellnwss Tourism
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,759 วันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565