ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 20 ก.พ.2565 เจ้าท่าระยองยังคงนำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวน สำรวจทะเลใกล้จุดที่ท่อน้ำมันดิบบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC รั่วในทะเล ซึ่งเป็นภารกิจต่อเนื่องมาตั้งแต่เกิดเหตุน้ำมันรั่ว 25 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยผลัดเวรทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามดูว่ายังมีคราบน้ำมันลอยอยู่หรือไม่
โดยจุดเกิดเหตุ ขณะนี้ เป็นสถานการณ์หลักที่สังคมกำลังจับตา ถึงการแก้ปัญหาของบริษัทในการเข้าไปอุดรอยรั่ว ซึ่งขณะนี้มีรั่ว 2 จุด โดยยังมี 1 จุดที่ยังอุดรอยรั่วไม่ได้
ซึ่งความคืบหน้าการเข้าอุดรอยรั่วของท่ออ่อนในทะเล ล่าสุด เมื่อ 19 ก.พ.2565 มีการประชุมร่วมโดยนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธาน และผู้แทนอีกหลายหน่วยร่วมด้วย ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมธุรกิจพลังงาน อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สภาวิศวกร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด
นายภูริพัฒน์ เปิดเผยว่า แม้ SPRC ได้ส่งแผนงานที่จะดำเนินการมาให้ แต่แผนที่เสนอยังละเอียดไม่มากพอต่อการตัดสินใจของที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมได้ขอให้บริษัทส่งรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเวลา 12:00 น. วันนี้(20ก.พ.2565)
ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ส่งรายละเอียดมาให้แล้ว และนัดประชุมพิจารณาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(21ก.พ.) และเป็นเรื่องด่วนที่บริษัทจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะขณะนี้ยังมีน้ำมันค้างท่อตามที่บริษัทรายงาน ว่ามีอยู่อีกประมาณ 12,000 ลิตร
ขณะที่ SPRC ได้ชี้แจงวิธีการพันท่อ และขั้นตอนการนำน้ำมันออกจาท่ออ่อนให้ได้มากที่สุด เพื่อจะห่อหุ้มบริเวณที่รั่วไหลทั้ง 2 จุด ด้วยวิธีการพันเทปกาวชนิดพิเศษจำนวน 3 ชั้น และเมื่อพันท่อเสร็จจึงเข้าสู่กระบวนการนำน้ำมันออกจากระบบ และถอดท่อที่เสียหายเพื่อส่งให้ตำรวจตรวจสอบต่อไป
แต่เดิม SPRC ได้กำหนดระยะเวลาดำเนินการไว้ 7 วัน คือ 19 - 22 กุมภาพันธ์ แต่จะใช้เวลา 3 วัน เฉพาะการพันท่อ ตั้งแต่วันที่ 23 – 25 ก.พ.นี้ โดยแจ้งด้วยว่า ระหว่างปฏิบัติงานได้เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน กรณีเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหล
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 ก.พ. 2565 เจ้าหน้าที่บริษัท SPRC ได้นำหลักฐานทรายปนเปื้อนสารเคมีที่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก ซึ่งมีผู้ไปพบเห็น หลังมีการลักลอบนำไปทิ้งบนชายหาดแม่รำพึง บริเวณหน้าโรงแรม เดอะ รอยัล ระยอง ต.เพ อ.เมืองระยอง เมื่อเวลา 22.00 น.เมื่อคืนวานที่ผ่านมา(19 ก.พ.2565) จึงนำเก็บไว้ที่บริเวณคลองหัวรถ หาดแม่รำพึง โดยเขียนป้ายกำกับไว้ห้ามเคลื่อนย้ายพยานหลักฐาน
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบลักษณะของสารเคมีที่พบนำมาทิ้งบริเวณดังกล่าว มีลักษณะเป็นคราบปนกับทรายบนชายหาด และมีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บริษัท SPRC ได้เตรียมไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ เพื่อหาตัวผู้นำมาทิ้ง ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร หรืออาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ผสมโรงเหตุน้ำมันรั่วหรือไม่ รวมทั้งนำไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด
ล่าสุด นายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง รุดเข้าตรวจสอบพร้อมระบุว่า ต้องสืบหาแหล่งที่มาของสารเคมี ตรวจสอบว่าเป็นสารเคมีชนิดไหน ของใคร นำเข้ามาจากที่ใด ในส่วนของประมง ถ้าทราบว่ามีผู้ใดทำให้ สัตว์น้ำหรือแหล่งน้ำสาธารณะมีมลพิษ ก็จะมีโทษจำคุกและปรับ 3-5 แสนบาท
กรณีนี้ หากบริษัทได้แจ้งความร้องทุกข์ และสามารถเชื่อมโยงคดีจนหาผู้กระทำความผิดได้ ก็จะเข้าข่ายความผิดกฏหมายประมง และสิ่งแวดล้อมของกรมควบคุมมลพิษ