“สยามราช” ส่งหลักฐานเด็ดมัดอดีตผู้บริหาร GGC ส่อทุจริตจัดซื้อน้ำมันปาล์ม

03 มี.ค. 2565 | 05:37 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มี.ค. 2565 | 12:47 น.

"สยามราช ผ่องสกุล" ผู้ถือหุ้น ของปตท. รับส่งมอบเอกสารที่สำคัญให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงอดีตผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ GGC กับบริษัทเอกชนว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต จัดซื้อน้ำมันปาล์ม

นายสยามราช ผ่องสกุล ในฐานะผู้ถือหุ้น ของปตท. และบริษัท ในเครือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งมอบเอกสารที่สำคัญให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว หลังปรากฏหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงอดีตผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด(มหาชน) (GGC) กับบริษัทเอกชนว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต 

 

ทั้งนี้การส่งมอบหลักฐานทั้งหมด ประกอบด้วย ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้นของบริษัทไทยโอลีโอเคมี จำกัด (ภายหลังแปรสภาพเป็น GGC)

 

สำหรับส่งมอบเอกสารที่สำคัญครั้งนี้ เบื้องต้น ลงวันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยมีสาระสำคัญใน 5 ประเด็น ดังนี้

  1. การร่วมกันทุจริตและคอรัปชั่นในการจัดซื้อน้ำมันปาล์มติบ (CPO)
  2. การบริหารงานที่ขาดความเป็นมืออาชีพ บริหารงานไม่เป็น
  3. การดำเนินการใช้วิธีสั่งซื้อแบบ Forward ทำให้บริษัทเสียหาย
  4. การว่าจ้างบุคคลภายนอกให้กลั่น CPKO เป็น RBDPKO ในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
  5. จงใจขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดโลกและเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง

นอกจากนี้ยังเสนอให้บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทแม่ ชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของบริษัทให้ดีขึ้น รวมทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด และ โยกย้ายผู้ที่อยู่ในข่ายและเกี่ยวร้องกับเหตุการณ์ข้างต้นออกจากตำแหน่งในทันที

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา นายสยามราช ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการ ก.ล.ต. ,อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) เรื่อง “ขอให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่”

 

ทั้งนี้เพื่อร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ร่วมกันดำเนินการสืบสวนตามอำนาจหน้าที่เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป