หลังจากเกิดวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อคนไทยในต่างประเทศ ล่าสุดนอกจากการช่วยเหลือคนไทยกลับแล้ว รัฐบาลยังขอให้แรงงานที่กำลังจะเดินทางไป ทำงานต่างประเทศ ได้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศด้วย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเชิญชวนแรงงานที่กำลังจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ให้ความสำคัญกับการเป็นสมาชิกและนำส่งเงินเข้าสมทบกองทุนฯ ก่อนออกเดินทางไปทำงาน
เพื่อเป็นหลักประกันให้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นระหว่างที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรณีเจ็บป่วย เสียชีวิต หรือแม้แต่การได้รับผลกระทบจากสงคราม
สำหรับการสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ นั้นสามารถสมัครได้ทั้งกรณีที่เป็นผู้เดินทางไปทำงานโดยบริษัทจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง กรมการจัดหางาน เป็นผู้จัดส่ง และการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง โดยการสมัครและนำส่งเงินสมทบก่อนออกเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ที่กรมการจัดหางาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด
สำหรับอัตราเงินนำส่งของผู้ที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
ส่วนสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายสำหรับสมาชิกกองทุนฯ มีทั้งหมด 9 กรณี ดังนี้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวถึงการอพยพคนไทยกลับประเทศว่า ล่าสุด ณ วันที่ 5 มี.ค. 2565 มีผู้ได้รับการช่วยเหลือเดินทางกลับมาถึงไทยแล้วทั้งหมด 5 ชุดรวม 197 คน ส่วนที่กำลังทยอยเดินทางกลับนั้น วันนี้จะมีชุดที่จะเดินทางจากโปแลนด์ จำนวน 14 คน และวันที่ 8 มี.ค. เดินทางจากโรมาเนีย จำนวน 13 คน
ทั้งนี้ จากผู้ที่เดินทางกลับมาแล้ว 197 คน มี 154 คน ที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 15,000 บาทต่อคน ตามระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยกิจการที่จะใช้จ่ายเงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ คิดเป็นยอดเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ทั้งสิ้น 2,310,000 บาท