นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า กพช. ได้เห็นชอบมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงแล้ว แต่ยังไม่สามารถแถลงรายละเอียดได้ หลังจากนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ได้ขอให้ยกมาตรการทั้งหมดไปแถลงวันที่ 11 มี.ค.นี้แทน
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การเลื่อนการแถลงมาตรการดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 11 มี.ค.นั้น สร้างความงุนงงกับผู้ที่รอรับฟังมาตรการการช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างมาก เพราะก่อนหน้าการประชุมกพช. นายสุพัฒนพงษ์ ได้ออกมายืนยันว่าให้ขอให้ประชาชนรอมาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมาในวันนี้ แต่ท้ายที่สุดกลับไม่มีการแถลงออกมาอย่างเป็นทางการ
แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะแถลงภายหลังการประชุมกพช.ว่า จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลจนกว่าจะตรึงไม่ได้ โดยยังตรึงไปให้อยู่ในระดับ 30 บาทต่อลิตร จนกว่าจะรับไม่ได้
โดยจะดูราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หากขึ้นไปถึง 130 -180 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้วจะทำอย่างไร ส่วนมาตรการดูแลกลุ่มเบนซิน ก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสม และต้องหามาตรการเฉพาะกลุ่มต่อไปด้วย
นายกุลิศ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ขอไม่แถลงมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำมันในครั้งนี้ แม้จะได้รายงานนายกฯ รับทราบทั้งหมดแล้ว เป็นเพราะถ้าแถลงออกมาในทันที อาจส่งผลให้เกิดการกักตุน
อย่างไรก็ตามในขณะนี้กระทรวงพลังงานได้จัดเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์เอาไว้แล้ว โดยจะสามารถรองรับได้ถึงน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นไปถึง 150 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
“ยืนยันว่า เราเตรียมมาตรการไว้แล้ว แต่ถ้าแถลงหมดหรือประกาศหมดก็ไม่ใช่มาตรการในการรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้ตอนนี้มีการเสนอไว้แล้วตามแผนว่า หากเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ต้องทำยังไง เกิน 100-130 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เกิน 131-150 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล หรือพุ่งเกิน 150 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลจะรองรับยังไงบ้าง”
ปลัดกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ในการตั้งโต๊ะแถลงมาตรการทั้งหมด จะมีทั้งการเปิดเผยสถานการณ์พลังงาน การตรึงราคาน้ำมัน การดูแลก๊าซแอลพีจี (แก๊สหุงต้ม) รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือ และมาตรการประหยัดพลังงาน
โดยมีหัวหน้าหน่วยงานของระทรวงพลังงานทุกหน่วยงานมาชี้แจงพร้อมกับรองนายกฯ ประกอบด้วย กรมธุรกิจพลังงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)