ครม.เคาะต่อใบอนุญาต2ปี แรงงานต่างด้าว MOU "ลาว กัมพูชา เมียนมา" 1แสนคน

15 มี.ค. 2565 | 07:16 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มี.ค. 2565 | 14:25 น.

โฆษกรัฐบาล เผยมติครม.ล่าสุด เห็นชอบต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว ปี 2565 ให้กับ 3 สัญชาติ แบบ MOU ลาว กัมพูชา เมียนมา ที่ครบวาระการจ้างงาน ครบ 4 ปี ในปี 2565 นี้ ออกไปอีก 2 ปี

วันที่ 15 มีนาคม 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว และเมียนมา

 

ซึ่งเข้ามาทำงานตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU) ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงาน (Agreement) ในปี 2561 ซึ่งมีวาระการจ้างงานครบ 4 ปี ในปีนี้  ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565

 

ให้ให้สามารถดำเนินการขออนุญาตทำงานหรือขอต่ออายุใบทำงานและขอรับการตรวจอนุญาตให้อยู่เป็นการชั่วคราวต่อไปได้อีกไม่เกิน 2 ปี โดยไม่ต้องเดินทางกลับออกไป

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาที่คนต่างด้าวไม่สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้โดยสะดวกในขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  

 

รวมทั้งเป็นการตอบสนองต่อนายจ้างหรือผู้ประกอบการที่ยังมีความต้องการแรงงานที่เป็นคนต่างด้าว เพื่อให้ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้  

 

ทั้งยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุขของประเทศในการป้องกันการแพร่ระบาด ระลอกใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ 

 

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงานสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาวและเมียนมา  

 

ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรี

ครม.เคาะต่อใบอนุญาต2ปี แรงงานต่างด้าว MOU \"ลาว กัมพูชา เมียนมา\" 1แสนคน

 

เพื่อให้คนต่างด้าวดังกล่าวสามารถอยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้เป็นกรณีพิเศษอีก 6 เดือน เพื่อดำเนินการขออนุญาตทำงานหรือต่ออายุใบอนุญาตทำงาน อีกไม่เกิน 2 ปีต่อไป

 

ซึ่งปัจจุบันมีคนต่างด้าว ภายใต้ MOU ในวาระการจ้างงานจะครบ 4 ปี จำนวนทั้งสิ้น 106,580 คน กัมพูชา 26,840 คน ลาว 25,504 คน เมียนมา 54,236 คน ทั้งนี้ ทางการของประเทศกัมพูชา ลาวและเมียนมา ก็ได้มีหนังสือ เห็นชอบกับการดำเนินการดังกล่าวด้วยแล้ว