นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เปิดเผยในงาน GO GREEN 2022 ขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว ช่วงเสวนาภายใต้หัวข้อ Green Strategy ยุทธศาสตร์สีเขียว ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและเนชั่นทีวีช่อง 22 ว่า การดำเนินการเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพนั้น
ภาครัฐบาลจะต้องดำเนินการด้วยการนำระบบของกฏหมาย ผสมผสานร่วมกับระบบโปรโมชั่นมาปรับใช้ นอกเหนือไปจากการทำด้วยความสมัครใจ
เนื่อจากเป็นแนวทางที่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประสบความสำเร็จในบางประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนของระบบกฎหมาย และโปรโมชั่นที่นำมาใช้นั้น ได้แก่ การมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ทำดีมีกำลังใจและได้ผลประโยชน์
ส่วนผู้ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมากจะต้องรับภาระของต้นทุนทางสังคม และนำส่วนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาและเป็นภาระต่อสังคมนำมาสนับสนุนผู้ที่ทำดี เป็นต้น
สำหรับภาคเอกชนนั้น ถือว่ามีความสำคัญมากที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยหากเอกชน หรือประชาชนทั่วไปมีความตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการซื้อสินค้า บริโภค เดินทาง และการใช้ชีวิต ก็จะเริ่มเลือกรูปแบบมากขึ้น และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
นอกจากนี้ ภาคเอกชนอาจจะต้องยอมจ่ายมากขึ้น เพราะถือว่าเป็นต้นทุนของตนเอง เนื่องจากหากเกิดขึ้นกับประชาชนเมื่อใด ผู้ผลิตสินค้าจะต้องปรับตัว ไม่เช่นนั้นก็จะขายสินค้าไม่ได้
เช่นเดียวกับระบบขนส่งที่ต้องปรับตัว โดยการนำดิจิทัลมาใช้จะเป็นโซลูชั่นที่สำคัญในรูปแบบของการลงทุนใหม่ ซึ่งจะทำให้วิถีของโลกเปลี่ยนไป
"สำคัญที่สุดคือตัวผู้บริโภค ซึ่งมีส่วนส่งต่อไปยังผู้ผลิตในการช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก"