พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้มากที่สุด ก่อนจะเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูก
โดยเน้นการใช้วัตถุดิบในประเทศ และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับประเทศต่าง ๆ ในการจัดหาปัจจัยการผลิตที่จำเป็นเข้าประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของปุ๋ย และอาหารสัตว์ ที่ประเทศไทยพึ่งพาต่างประเทศจำนวนมาก
“เรื่องนี้ต้องมองในระยะยาวว่าจะทำอย่างไรกับประเทศเราดี ทำอย่างไรจะสามารถผลิตปุ๋ยขึ้นในประเทศได้ มีแม่ปุ๋ยของเราเอง แม้ตอนนี้จะมีอยู่แต่ก็ยังใช้ไม่ได้ ขุดขึ้นมาไม่ได้ เพราะว่าประชาชนในพื้นที่ยังไม่เห็นชอบในเรื่องนี้ จึงทำให้เรายังขาดความแข็งแรงเรื่องแม่ปุ๋ยที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด อีกทั้งในตอนนี้หลายประเทศมีเรื่องการกักตุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต จึงทำให้มีผลทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหานี้ให้ดีที่สุด”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาเรื่องปุ๋ยหากต้องใช้งบประมาณทุ่มลงไปทั้งหมดคงทำไม่ได้ ดังนี้นในวันนี้รัฐบาลจึงต้องดูสองทาง สุขภาพก็ดูและดูเรื่องสงครามเข้าไปอีก เท่ากับโดนสองเด้ง และขอย้ำว่ารัฐบาล ทุกกระทรวงทุกหน่วยงานเราทำงานอย่างหนัก เพื่อวางแผนช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเข้าใจคำว่าให้ได้มากที่สุดตามขีดความสามารถที่เรามีอยู่ เพื่อให้พ้นวิกฤติที่ซ้อนวิกฤตินี้ไปให้ได้ เราไม่อยากทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเราต้องเร่งเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และระยะกลาง
ทั้งเรื่องโอกาสการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ การเปิดประเทศและการท่องเที่ยวในระยะต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพและรายได้ รวมไปถึงการช่วยลดภาระ แบ่งเบาค่าครองชีพด้วยมาตรการต่าง ๆ และแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ยืนยันว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือปัญหาด้านรายได้ประเทศ ซึ่งตอนนี้อยู่ในห้วงของการเริ่มการลงทุน ทั้ง โครงการอีอีซี อุตสาหกรรมใหม่ รถไฟฟ้า รวมทั้งโครงการต่าง ๆ ที่มีการลงทุนในประเทศที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้อยู่ในช่วงของการดำเนินการ และคิดว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปวันข้างหน้าเราน่าจะมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
“รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังที่จะใช้เงินอย่างเดียว ผมได้ทำเรื่องนี้มาโดยตลอดมันถึงได้เกิดโครงการอีอีซีขึ้นมา และมีโครงการอื่นๆตามมาอีกหลายอย่าง และวันนี้สิ่งที่หารือกันมากที่สุดคือการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชนที่มีปัญหาติดค้างข้อกฎหมายต่าง ๆ มากมาย และวันนี้ฐานรายได้ของแต่ละคนแต่ละอาชีพต่างกัน ทำอย่างไรจะทำให้แต่ละกลุ่มมีรายได้ที่เพียงพอที่จะดูแลลูกเมียครอบครัวได้ตามอัตภาพที่เขามีอยู่”
ส่วนการที่จะยกคนขึ้นมามีฐานะดีนั้น ถือเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง โดยวันนี้ก็เห็นมีคนรวยเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ก็ต้องระวังอีกเหมือนกัน แม้รัฐบาลจะพยายามสนับสนุนเรื่องนี้ แต่ก็ต้องมีมาตรการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวด้วย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกันมาแล้วหลายรอบ และน่าจะได้ข้อสรุปโดยเร็วก่อนเสนอให้ที่ประชุมครม.ตามขั้นตอนต่อไป เพราะมาตรการที่จะออกมาจะมีเรื่องของภาษีด้วย