ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมครม. ถึง 10 มาตรการเยียวยา ลดค่าครองชีพ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันแพง และสถานการณ์วิกฤตยูเครนและรัสเซีย ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค. 2565
แม้มาตรการทั้งหมดจะยังต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำรายละเอียดในแต่ละมาตรการกลับมาเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณา เป็นทางการอีกครั้ง เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกรอบเวลาที่นายกรัฐมนตรีกำหนดโดยเฉพาะกรอบวงเงินของการดำเนินโครงการ
โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า เบื้องต้นทั้ง 10 มาตรการที่ออกมาจะใช้วงเงินรวมทั้งหมดประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของครม.อีกครั้ง เป็นรายโครงการ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า กรอบวงเงินในการดำเนินการแต่ละเรื่อง จะใช้งบประมาณจากหลายแหล่ง ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมจัดทำข้อเสนอมาให้ครม.เห็นชอบ แยกเป็นเงินจาก 3 แหล่งหลัก ๆ ดังนี้
สำหรับ 10 มาตรการตามที่นายกรัฐมนตรีแถลงนั้น ประกอบด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะเร่งดำเนินการออกมาตรการทั้งหมดที่กล่าวมา ทั้งนี้ต้องให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย และข้อบังคับต่าง ๆ รวมทั้งนำเสนอครม. เพื่อพิจารณาและอนุมัติเป็นการเร่งด่วน
ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของการปรับลดเงินสมทบมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดประกันสังคมเห็นชอบ จากนั้นจึงจะเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ต่อไปเพื่อให้มีผลบังคับใช้ในเดือนพ.ค.นี้