นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการแถลงมาตรการลดค่าครองชีพ ช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย วันนี้ ถึงกรณีที่ภาคเอกชนได้แสดงความเห็นว่ารัฐบาลควรหาทางกู้เงินเพิ่มเติมมาช่วยพยุงเศรษฐกิจ ว่า รัฐบาลกำลังประเมินสถานการณ์ในเรื่องนี้อยู่
ทั้งนี้ยืนยันว่า กระทรวงการคลัง จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในเรื่องนี้ โดยจะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่า หากดำเนินการจริง กระทรวงการคลังคงไม่ได้มีปัญหา แต่จะออกมาเป็นในรูปแบบใดได้บ้าง ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ ขอให้ใจเย็น ๆ และดูสถานการณ์กันไปก่อน
“ด้วยวงเงินต่าง ๆ ที่เหลืออยู่ตอนนี้และสามารถบริหารจัดการได้ก็ยังไม่จำเป็น แต่ถ้าเกิดเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตขึ้นมา หมายความว่า สถานการณ์ยูเครน-รัสเซียยืดเยื้อยาวนานต่อไป แล้วระดับราคาสินค้า และพลังงานเพิ่มขึ้น จากการกีดกันทางการค้าแบบเอาเป็นเอาตาย หากเป็นแบบนี้ก็ต้องกลับมาพิจารณาอีกที”
นายสุพัฒนพงษ์ ยืนยันว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยที่ไม่ได้รอให้สิ้นสุดมาตรการลดค่าครองชีพที่จะดำเนินการใน 3 เดือน คือตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค.2565 จบก่อน และเชื่อว่าอีกไม่นานนี้จะได้ข้อสรุป ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า ในการดำเนินการเรื่องนี้ คงต้องประเมินสถานการณ์ก่อน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ปัจจุบัน พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม วงเงิน 5 แสนล้านบาท (อัพเดท 16 มี.ค.2565) มีการอนุมัติไปแล้วกว่า 402,865 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 66 โครงการ และคงเหลือเงินอยู่เพียง 74,285 ล้านบาท เท่านั้น