เกาะติด “ลดเงินสมทบประกันสังคม” หลังจากรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน หนึ่งในนั้นคือการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม เพื่อช่วยเหลือ นายจ้าง และผู้ประกันตน 3 มาตรา
คือ มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด และสถานการณ์สงครามระหว่างประเทศรัสเซีย และยูเครนที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต และบริการของทั้งในและต่างประเทศ
หลายคนมีความกังวลว่าการลดอัตราเงินสมทบนั้น จะมีผลต่อการรับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพหรือไม่
นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่า การลดอัตราเงินสมทบนั้นจะไม่มีผลต่อสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพและสิทธิประโยชน์กรณีอื่นๆ เพราะการคำนวณสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญคิดจากฐานค่าจ้างเงินเดือน ไม่ได้คิดจากอัตราเงินสมทบที่ส่งเข้ากองทุน
การลดอัตราเงินสมทบอาจกระทบต่อการรับ "บำเหน็จผู้ประกันตน" เพราะการจ่ายกรณีบำเหน็จ จะคำนวณเงินสมทบกรณีชราภาพที่ผู้ประกันตนและนายจ้างสมทบเข้ากองทุน รวมผลประโยชน์ตอบแทน เมื่อลดอัตราเงินสมทบชราภาพลง ผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับบำเหน็จชราภาพจะได้รับเงินบำเหน็จที่ลดลง
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมไปพิจารณานำเงินสมทบส่วนของรัฐบาลที่อุดหนุนเงินสมทบกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ เข้ากองทุน มาเพิ่มเงินบำเหน็จให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิในช่วงที่มีการลดเงินสมทบในช่วงดังกล่าว
ผู้ประกันตนตรวจสอบเงินสะสมกรณีชราภาพได้ผ่านทาง www.sso.go.th หรือ SSO Mobile App : SSO CONNECT และทาง LINE : @SSOTHAI สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
"สมทบประกันสังคม 2565"
ผู้ประกันตน ม.33
ผู้ประกันตน ม.39
ผู้ประกันตน ม.40
ลดอัตราเงินสมทบ ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือนดังนี้
ทั้งนี้ ปรับลดอัตราเงินสบทบของผู้ประกันตน 3 มาตรา ระยะเวลา 3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค. 2565