ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์แนวพรมแดนด้านตะวันตกกับสหภาพเมียนมากลับมาตึงเครียดอีกระลอก ล่าสุด กองกำลัง Karen National Liberation Army =KNLA กองพลน้อยที่ 6 กองพัน.17 ได้จัดกำลังพล เข้าตีทหารรัฐบาลเมียนมา กองพัน.คร.432 และ
กองกำลังกะเหรี่ยงพิทักษ์ชายแดน กลุ่ม BGF. กองพัน.1023 ฐานบ้านกุยเลอเติ่ง (MT – 507354) อ.ไจโด่ง จ.กอกาเร็ก สหภาพเมียนมา ตั้งอยู่ด้านตรงข้าม บ.เลตองคุ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ห่างจากชายแดนประเทศไทยประมาณ 1.5 กม. โดยผลการปฎิบัติ ยังไม่ทราบการบาดเจ็บและสูญเสีย
อย่างไรก็ตาม จากเหตุปะทะดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนชาวเมียนมา เชื้อสายกะเหรี่ยง หนีภัยสู้รบอพยพเข้ามาพื้นที่ประเทศไทย บริเวณช่องทางเลตองคุ (MT 520361) บ.เลตองคุ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก . จำนวนประมาณ 158 คน
การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังพันธมิตรทหารกะเหรี่ยง ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีเหตุปะทะกันถี่ยิบกว่าสัปดาห์ โดยกองกำลังพันธมิตรทหารกองกำลังกะเหรี่ยง ประกอบด้วย กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army-KNLA) และ The Karen National Union-KNU สังกัด พัน.201 กองพล.6
ร่วมกับกองกำลังกะเหรี่ยงองค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Defence Organisation KNDO) กองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ หรือกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย : Democratic Karen Buddhist Army-DKBA โกล้ทูบอ สังกัดกองพล.3 และกองกำลังพันธมิตรทหารกะเหรี่ยง สามารถยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารเมียนมาได้จำนวนมาก ภายหลังจากบุกยึดฐานที่มั่นแห่งหนึ่งของฝ่ายเมียนมาได้สำเร็จ
ขณะที่ทหารสหภาพเมียนมาตอบโต้กลับอย่างรุนแรง โดยได้ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านอูเกคี และบ้านใหม่ ลึกจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.อุ้มผาง ประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้บ้านของราษฎรเสียหายไป ประมาณ 7 หลัง โดยทหารฝ่าย KNU ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ พบว่ามีบ้านเรือนเสียหายด้วยสะเก็ดระเบิด และยังมีหลุมขนาดใหญ่จากระเบิดน้ำหนัก 5 ตัน แต่ราษฎรกะเหรี่ยงไม่ได้รับอันตรายใด ๆ
เนื่องจากชาวบ้านได้รับการเตือนล่วงหน้าแล้ว ไม่ให้อยู่ในหมู่บ้าน เพราะทหารเมียนมาได้ส่งกำลังทหารไปปราบฝ่ายต่อต้านด้านตรงข้าม อ.แม่สอด อ.พบพระ และอ.อุ้มผาง จ.ตาก ทำให้ประชาชนต่างวิตกกลัว และไปอาศัยอยู่ใกล้พื้นที่ตะเข็บชายแดน หากมีเหตุการณ์รุนแรงก็พร้อมจะหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในเขตไทย
นอกจากนี้ทหารเมียนมาได้ส่งกำลังทหารพร้อมรถหุ้มเกราะ เข้าพื้นที่กองพลน้อยที่ 6 ของฝ่ายกะเหรี่ยงทั้งหมด เพื่อปราบปรามขั้นเด็ดขาด พร้อมที่จะปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง แต่ในระหว่างทางที่ฝ่ายทหารเมียนมาเดินทางนั้น ถูกกับระเบิดจากฝ่าย KNU และถูกซุ่มโจมตีโดยฝ่ายต่อต้านตลอด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตทุกวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้กองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) สนธิกำลังกับกองกำลังประชาธิปไตยกะเหรี่ยง(DKBA) ได้ทำการโจมตีฐานที่มั่นของทหารสหภาพเมียนมา พัน.ร 32 ภทบ.ตอ/และพัน.คร.555 บก.ควบคุมยุทธการที่ 13 บริเวณฐานมอคีร์(MU8299005) บ้านมอคีร์ อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านแม่กลองคี หมู่.3 ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก
โดยต่อมากองกำลังป้องกันกะเหรี่ยงแห่งชาติ KNDO ได้นำกำลังประมาณ 70 คน รถยนต์ 5 คัน จากพื้นที่ อ.วาเล่ย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เข้าไปสมทบและตีฐานของทหารสหภาพเมียนมา ที่มาตั้งอยู่ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง จนทัพทหารเมียนมาในพื้นที่แตก และได้ทำการยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่าว