น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกันพิจารณามาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพในระยะต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุมครม. ได้ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันพิจารณาติดตามและปรับปรุงมาตรการการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่เหมาะสมตามสถานการณ์ของราคาพลังงานในตลาดโลก
โดยให้คำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ ความพร้อม และความสามารถทางการเงินของภาครัฐ ภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561
อย่างไรก็ตามในการประชุมครม. วันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรประหว่างยูเครน – รัสเซีย กรอบวงเงินเบื้องต้น 45,102.65 ล้านบาท
เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนและลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง รวมถึงดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มแรงงานและกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 10 มาตรการ ซึ่งจะดำเนินการในระยะเวลา 3 เดือน โดยมีรายละเอียดล่าสุดในแต่ละมาตรการ ดังต่อไปนี้
1.ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG)
2.ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV
3.ลดค่า FT
4.ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล
5.ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก
6.แท๊กซี่มิเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการลมหายใจเดียวกัน
7.เพิ่มส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
8.ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
9.ลดอัตราเงินสบทบ มาตรา 33
10.ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39, 40