นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.รับทราบการออกประกาศเชิญชวนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจการ เชิงพาณิชย์และติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณสถานีกลางบางซื่อ พื้นที่รวม 47,675 ตารางเมตร (ตร.ม.) ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) ให้แล้วเสร็จ คาดว่าจะออกประกาศประกวดราคาได้ภายในเดือนพ.ค.65 และให้เอกชนเข้ายื่นข้อเสนอภายในกลางเดือนมิถุนายน 65 คาดได้ผู้ชนะการประมูลภายในเดือน พ.ย.65 หลังจากนั้นเข้าพื้นที่ปลายปี 65
" รฟท. ได้มีการปรับลดจำนวนพื้นที่ในส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางซื่อลงประมาณ 4,700 ตร.ม.จากเดิมมีพื้นที่ 52,000 ตร.ม. เหลือประมาณ 47,000 ตร.ม. เนื่องจากต้องใช้พื้นที่บางส่วนสำหรับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด) ส่วนพื้นที่ในส่วนอื่นๆ ยังคงจำนวนพื้นที่เท่าเดิม โดยพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาสถานีกลางบางซื่อ จำนวนพื้นที่ประมาณ 2,300 ตร.ม., พื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี พื้นที่ประมาณ 3,700 ตร.ม. และพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี ประมาณ 2,000 ตร.ม."
สำหรับการประมูลโครงการดังกล่าว แบ่งเป็น 4 สัญญา ประกอบด้วย 1.การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางซื่อ 1 สัญญา ประกอบด้วย พื้นที่ศูนย์อาหาร 780 ตรม.,พื้นที่สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะธนาคารกรุงไทย 120 ตร.ม.,พื้นที่สถาบันการเงินอื่นๆ ,พื้นที่แสดงสินค้าโอทอป 600 ตร.ม. และพื้นที่บริการตู้เก็บสัมภาระ 2.การบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาสถานีกลางบางซื่อ 1 สัญญา, 3.การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 แห่ง 1 สัญญา และ 4. การบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาในสถานี 12 แห่ง 1 สัญญา โดยสัญญาที่ 1 และ 2 เป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี ส่วนสัญญาที่ 3 และ 4 เป็นสัญญาระยะสั้น 3 ปี ซึ่งเมื่อได้ผู้ชนะประมูลแล้ว รฟท. จะให้เอกชนเข้าพื้นที่เริ่มดำเนินการพัฒนาทันที ทั้งนี้คาดว่าตลอดอายุสัมปทานประมาณ 20 ปี จะสร้างรายได้ให้กับ รฟท.ไม่ต่ำกว่า 7.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้การส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนในโครงการฯ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่1 สามารถส่งมอบพื้นที่บริเวณชั้น 1และชั้นลอย จำนวน 24,000 ตร.ม. ภายในปี 66-68 และระยะที่ 2 สามารถส่งมอบพื้นที่บริเวณชั้น 3 เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินและรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จำนวน 21,000 ตรม.ภายในปี 69