‘บีทีเอส’ ลุยฟ้องศาลปกครองต่อ หนี้สายสีเขียวปูด 3.8 หมื่นล้าน

03 เม.ย. 2565 | 05:29 น.
อัปเดตล่าสุด :03 เม.ย. 2565 | 12:34 น.

รถไฟฟ้าสายสีเขียวเจอศึกหนัก บีทีเอสลุยฟ้องศาลปกครองต่อ ปมกทม.เบี้ยวหนี้ 3.8 หมื่นล้าน หลังดันเข้าครม.ต่อสัญญาสัมปทานยังไร้ผล

กลายประเด็นร้อนสำหรับการต่ออายุสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ที่พบว่ามีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมค้านหัวชนฝา อีกทั้งการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 65 บาท ซึ่งมีราคาแพง จะทำให้เป็นภาระแก่ประชาชนได้ 
    

 

ขณะกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพ มหานคร (กทม.) พยายามผลักดันขยายสัญญาสัมปทานฯรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปอีก 30 ปี ถึงปี 2602 จากสัมปทานปัจจุบันที่จะสิ้นสุดปี 2572 ให้บีทีเอสแลกกับหนี้ค้างชำระกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล โดยทุกครั้งที่มีกระแสการนำวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาจะถูกถอดออกและไม่เคยได้รับการพิจารณา
 

สำหรับการนำวาระดังกล่าวเข้าที่ ประชุมคณะรัฐมนตรีถูกเลื่อนออกไปถึง 8 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา พบว่า รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรคภูมิใจไทยต่อต้านโดยอ้างว่าติดภารกิจและแจ้งที่ประชุมจะไม่ขอร่วมการประชุม ครม.
    

 

ทั้งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา บีทีเอสได้ยื่นฟ้องต่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ต่อศาลปกครองเพื่อทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถพร้อมดอกเบี้ยวงเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ผ่อนปรนให้ กทม. เป็นระยะเวลา 2 เดือน เพื่อหาเอกสารหลักฐานนำมาชี้แจงต่อศาล
    

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี กล่าวว่า สำหรับคืบหน้าการทวงหนี้จ้างเดินรถกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด นั้น ปัจจุบันศาลปกครองได้รับเรื่องไว้พิจารณา โดยกำหนดให้กทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัดยื่นเอกสารทำ คำชี้แจงเพื่อประกอบการพิจารณาทั้ง 2 ฝ่ายต่อศาลฯ ภายในสัปดาห์นี้ แต่ทาง กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ขอเลื่อนส่งเอกสารดังกล่าวออกไปก่อน โดยที่ผ่านมาบีทีเอสได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ จำนวน 12,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 15 ก.ค. 2564)
    

‘บีทีเอส’ ลุยฟ้องศาลปกครองต่อ หนี้สายสีเขียวปูด 3.8 หมื่นล้าน

“ส่วนการฟ้องร้องระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) จำนวน 20,000 ล้านบาท ต่อศาลปกครองเพิ่มเติมนั้น เราขอดูรายละเอียดและเอกสารหลายๆ อย่างประกอบกันก่อน เพราะต้องมีการปรึกษากับทนายถึงการฟ้องร้องดัง กล่าวว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เรายังยืนยันที่จะฟ้องทวงหนี้ในส่วนนี้แน่นอน ปัจจุบันบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ไม่ได้มีการเจรจาเรื่องทวงหนี้กับบีทีเอสเลย ที่ผ่านมาเคยเจรจาแล้วและได้เสนอเรื่องต่อกทม. เพื่อนำเข้าสภากทม.แต่ก็ไม่ได้รับการอนุมัติ”
    

 


นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนภาระหนี้สะสมที่ภาครัฐมีต่อบีทีเอส ตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 - ปัจจุบัน มีหนี้ค่าจ้างเดินรถและหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) รวมดอกเบี้ยจำนวน 38,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,000 ล้านบาทแบ่งเป็นหนี้ค่าจ้างเดินรถจำนวน 18,000 ล้านบาทและหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) จำนวน 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลหนี้รวมอยู่ที่ 32,000 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมากทม.ไม่ได้มีการชำระหนี้ในส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่-บางหว้า และช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ตั้งแต่เปิดให้บริการ