นับถอยหลัง 7 ปี 'รถไฟฟ้ารางคู่ Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ' เปิดให้บริการ

10 เม.ย. 2565 | 08:14 น.
อัปเดตล่าสุด :10 เม.ย. 2565 | 15:25 น.

กทม. สรุปผล ความคืบหน้า 'รถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา' หรือ Light Rail (LRT) เส้นทาง บางนา-สุวรรณภูมิ จำนวน 14 สถานี คาดเปิดให้บริการปี 2572

10 เมษายน 2565 - กรุงเทพมหานคร หรือ กทม. โดย นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร สรุปผลการศึกษา โครงการงานจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาและวิเคราะห์โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา (Light Rail Transit) สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาข้อมูลโครงการด้านวิศวกรรม เศรษฐศาสตร์ การเงิน การลงทุน และด้านสิ่งแวดล้อม

 

ตลอดจนรูปแบบความเหมาะสมด้านการลงทุนโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปประกอบการศึกษาและจัดทำโครงการ ให้มีความเหมาะสม ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ 

นับถอยหลัง 7 ปี \'รถไฟฟ้ารางคู่ Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ\' เปิดให้บริการ

สรุปรายละเอียดสำคัญ 'โครงการระบบรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ' ดังนี้ 

  • ระยะทางทั้งหมด 14 สถานี 
  • เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ 

 

การดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ 

  • ระยะที่ 1 จากแยกบางนา-ธนาซิตี้ จำนวน 12 สถานี ได้แก่ สถานีบางนา สถานีประภามนตรี สถานีบางนา-ตราด 17 สถานีบางนา-ตราด 25 สถานีวัดศรีเอี่ยม สถานีเปรมฤทัย สถานีบางนา-ตราด กม.6 สถานีบางแก้ว สถานีกาญจนาภิเษก สถานีวัดสลุด สถานีกิ่งแก้ว และสถานีธนาชิตี้ ระยะทาง 14.6 กิโลเมตร 
  • ระยะที่ 2 จากธนาชิตี้-สุวรรณภูมิใต้ จำนวน 2 สถานี ได้แก่ สถานีมหาวิทยาลัยเกริก และสถานีสุวรรณภูมิใต้ ระยะทาง 5.1 กิโลเมตร 

นับถอยหลัง 7 ปี \'รถไฟฟ้ารางคู่ Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ\' เปิดให้บริการ

โครงการแบ่งรูปแบบของสถานีไว้ 3 รูปแบบ ดังนี้ 

  • ประเภท A สถานียกระดับที่รองรับด้วยเสาเดี่ยว มีจำนวน 10 สถานี ได้แก่ สถานีประภามนตรี สถานีบางนา-ตราด 17 สถานีวัดศรีเอี่ยม สถานีเปรมฤทัย สถานีบางนา-ตราด 6 สถานีบางแก้ว สถานีวัดสลุด สถานีกิ่งแก้ว สถานีมหาวิทยาลัยเกริก สถานีสุวรรณภูมิใต้ 
  • ประเภท B สถานียกระดับที่รองรับด้วยเสาคู่ จะก่อสร้างในกรณีที่ไม่สามารถวางตำแหน่งเสาเดี่ยวได้ โครงการจำเป็นต้องออกแบบสถานีให้รองรับด้วยโครงสร้างเสาคู่ มีจำนวน 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางนา-ตราด 25 สถานีกาญจนาภิเษก สถานีธนาชิตี้ 
  • ประเภท C สถานีระดับดิน จะออกแบบตามข้อจำกัดด้านกายภาพของพื้นที่ โดยชั้นจำหน่ายตั๋วอยู่ระดับดิน สามารถเดินเชื่อมกับสถานีบางนาของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ด้วยสะพานลอยยกระดับ (Skywalk) มีจำนวน 1 สถานี ได้แก่ สถานีบางนา

นับถอยหลัง 7 ปี \'รถไฟฟ้ารางคู่ Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ\' เปิดให้บริการ

รูปแบบของการพัฒนาโครงการ Light Rail Transit

  • เป็นรถไฟฟ้ารางเบา ขนาดราง 1.435 เมตร 
  • มีระบบควบคุมการเดินรถอัตโนมัติ 
  • ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง 
  • ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 1 ชั่วโมง 
  • สามารถรองรับผู้โดยสารประมาณ 15,000 - 30,000 คน/ชั่วโมง 
  • อัตราค่าโดยสาร กำหนดให้ค่าโดยสารในปีเปิดให้บริการ (ปี 2572) มีอัตราแรกเข้า 14.4 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง คือ 2.6 บาท ต่อกิโลเมตร โดยมีเพดานค่าโดยสารสูงสุด 45.6 บาท 
  • คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการในปี 2572 ประมาณ 82,695 คน-เที่ยว/วัน และปี 2576 จะเพิ่มสูงขึ้นราว 138,744 คน-เที่ยว/วัน และในปี 2578 
  • กรณี AOT เปิดให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านทิศใต้ จะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 165,363 คน-เที่ยว/วัน 
  • ขั้นตอนการก่อสร้างและทดสอบระบบใช้เวลาประมาณ 4 ปี ระหว่าง ปี 2568-2571 
  • คาดโครงการจะสามารถเปิดให้บริการในระยะที่ 1 ได้ในปี 2572

 

ทั้งนี้ โครงการได้ดำเนินการวิเคราะห์และศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนและเอกชนที่เหมาะสมในการดำเนินงานโครงการ เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมดำเนินงาน โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ 

 

  • PPP Net Cost ในช่วงลงทุนก่อสร้าง รัฐจะเป็นผู้จัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อให้เอกชนก่อสร้างงานโยธาของโครงการทั้งหมด โดยเอกชนเป็นผู้ซื้อรถไฟและก่อสร้างงานระบบ ส่วนช่วงดำเนินการและบำรุงรักษาเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ และการลงทุนอื่นๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับโครงการ โดยรัฐให้สิทธิ์แก่เอกชนเป็นผู้รับรายได้และเอกชนจ่ายค่าสัมปทานหรือส่วนแบ่งของรายได้แก่รัฐ 
  • PPP Gross Cost ในช่วงลงทุนก่อสร้าง รัฐจะเป็นผู้จัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อให้เอกชนก่อสร้างงานโยธาของโครงการทั้งหมด โดยเอกชนเป็นผู้ซื้อรถไฟและก่อสร้างงานระบบ ส่วนช่วงดำเนินการและบำรุงรักษา เอกชนเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ และการลงทุนอื่นที่จำเป็น ส่วนรัฐเป็นผู้รับรายได้ผ่านเอกชนและเป็นผู้กำหนดจ่ายผลประโยชน์แก่เอกชนในรูปแบบค่าจ้าง ตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาร่วมลงทุน 
  • PPP Modified Gross Cost ในช่วงลงทุนก่อสร้าง รัฐจะเป็นผู้จัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อให้เอกชนก่อสร้างงานโยธาของโครงการทั้งหมด เอกชนเป็นผู้ซื้อรถไฟและก่อสร้างงานระบบ ส่วนช่วงดำเนินงานและบำรุงรักษา เอกชนเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ และการลงทุนอื่นที่จำเป็น รัฐเป็นผู้รับรายได้ผ่านเอกชนและกำหนดจ่ายผลประโยชน์แก่เอกชนในรูปแบบค่าจ้าง ตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาณร่วมลงทุนและได้รับผลตอบแทนพิเศษเพื่อเติมภายใต้กลไกการแบ่งผลประโยชน์เพิ่มเติมที่ได้ตกลงกัน 

 

ที่มา : กทม