นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวขอชื่นชมทีมงานศิลปินเดี่ยวชาวไทยมิลลิ (MILLI) กับการแสดงบนเวที Coachella 2022 ที่นำข้าวเหนียวมะม่วง อาหารว่างคนไทยและเป็น 1ใน 50 เมนูขนมหวานที่ดีที่สุดของโลกเป็น Soft Power Content บนเวทีคอนเสิร์ต ถือเป็นไอเดียที่เป็นดีและน่าชื่นชม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุน Creative Economy โดยปี 2565 นโยบายหลักของกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปีคือการส่งเสริมและเชื่อมตลาดด้านนี้โดยเน้น Soft Power และยินดีหากทีมนี้จะให้กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมสนับสนุน
ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้นโยบายกับกระทรวงพาณิชย์ ด้าน Soft Power ว่ากระทรวงพาณิชย์จะต้องเป็นผู้ที่ช่วยส่งเสริม Soft Power เพื่อที่จะทำให้ Soft Power ของไทยไปผงาดในตลาดโลก ซึ่งประเทศไทยมีจุดแข็งไม่ว่าจะเป็นเรื่องศิลปะวัฒนธรรม วิถีชีวิต
โดยเฉพาะอาหารไทยเป็นที่เลื่องลือและยอมรับไปทั่วโลกและสิ่งที่มีความคุณค่ามากที่สุด คือ ความเป็นไทย ที่ไม่มีใครแย่งไปจากเราได้ ซึ่งนำไปขายได้ในทุกเรื่อง ทั้งในด้านการผลิตที่ละเอียดลออ งดงามและมีความรับผิดชอบ ในภาคบริการการท่องเที่ยวที่ไม่มีใครสู้เราได้ในโลก ซึ่งทั้งหมดนี้จะไปสู่โลกได้อย่างไร เราก็ทำมาเป็นลำดับและทำเป็นระบบชัดเจน มีกลไกรับผิดชอบยิ่งขึ้น
โดยในปี 2565 ได้มอบหมายให้ดำเนินยุทธศาสตร์ Soft Power ทำกิจกรรม ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค. เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมแรกของปี 2565 คือ การผลักดัน Soft Power ผ่านภาพยนตร์ แอนิเมชั่น และดิจิทัลคอนเทนต์ของไทย ในโครงการ Content Pitching เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งผู้เจรจาจากบริษัทฝั่งไทยสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 815 ล้านบาท นับเป็นครั้งแรกในการดึงผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชื่อดังอย่าง Netflix, WeTV, iQiyi และ VIU เจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทย 15 บริษัท
สำหรับปี 2565 ให้มุ่งเน้นการส่งเสริม Soft Power ให้ไทยให้ผงาดได้ในตลาดโลก โดยได้มีการส่งเสริม และสร้างเครือข่าย ขยายโอกาสเผยแพร่ผลงานดังกล่าวสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม แหล่งวิถีชีวิต ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยอีกด้วย
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวเหนียวปี 2564 มีปริมาณ 150,570 ตัน มูลค่า 3,108.40 ล้านบาท ลดลง 25.73% จากปี 63 และปี 2565 (ม.ค.- ก.พ. 65) มีปริมาณ 29,312 ตัน มูลค่ารวม 594.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.98 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 มีตลาดส่งออกหลัก คือ จีน สหรัฐอเมริกา ลาว เวียดนาม และญี่ปุ่น
และสถานการณ์การส่งออกมะม่วงสดปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงรวม 4,440.30 ล้านบาท แบ่งเป็น มะม่วงสด มูลค่า 2,934.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.25 % จากปี 63 และมะม่วงกระป๋องมูลค่า 1,505.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.12% จากปี 63 และปี 2565 (ม.ค. - ก.พ. 65) มีปริมาณ 10,398 ตัน มูลค่ารวม 403.51 ล้านบาท แบ่งเป็นมะม่วงสด มูลค่า 177.96 ล้านบาท ลดลง 38.13 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปี 64 และมะม่วงกระป๋องมูลค่า 225.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.78 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564
สำหรับตลาดส่งออก10 อันดับแรกของมะม่วงสดไทย ได้แก่ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เมียนมา ลาว สิงคโปร์ รัสเซีย เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน ตามลำดับ