นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เพื่อสอดรับกับนโยบายของรัฐและกระทรวงพาณิชย์เรื่อง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาดและภายใต้ยุทธศาสตร์ แก้มลิง++ ของ อคส. จะเร่งเพิ่มจำนวนสาขาของคลังสินค้า อคส.ในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อคส.ได้ร่วมมือกับสวทช. เป็นหน่วยงานสำคัญของประเทศที่สนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ
ที่จะสามารถยกระดับผลผลิตต้นน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้กรอบร่วมมืองานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อาทิ โครงการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเครื่องคัดแยก ชนิด ประเภท ขนาด น้ำหนัก ของปลา , เครื่องมือลำเลียงปลาทูน่า หน้าท่าเทียบเรือ , โครงการสร้างโรงสี โรงอบ โรงแป้ง อัจฉริยะ , เครื่องคัดแยกเหง้ามันสำปะหลัง เป็นต้น
ด้านดร.อัมพร โพธิ์ใย ผู้อำนวยการศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) ผู้แทนผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ภาคการเกษตรเป็นรากฐานการผลิตที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ สวทช. ได้วิจัย พัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตร นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้เกษตรกรไทย
ซึ่งปัจจุบันทาง DECC มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของการ พัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารผ่านงานวิจัย เช่น การพัฒนาโรงเรือนพฤษาสบาย , การพัฒนารถเข็นรักษ์โลก ,การพัฒนาเครื่องจักรอุปกรณ์ด้านเกษตรและอาหาร เช่น เครื่องปอกและหั่นมะม่วงอัตโนมัติ , เครื่องปิ้งหมูอัตโนมัติ , เครื่องลดอุณหภูมิและบรรจุวุ้นแปรรูป เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้นำเสนองานวิจัยของสวทช. มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าด้านการแปรรูป เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร เช่น การใช้เชื้อในการผลิตต้นเชื้ออาหารหมักสัตว์ กระบวนการผลิตนํ้าส้มสายชูหมักจากผลไม้ในขั้นตอนเดียวและสูตรจุลินทรีย์สำหรับการผลิตนํ้าส้มสายชูหมัก การผลิตสารยับยั้งแบคทีเรียจากโปรตีนไข่ขาวเพื่อการประยุกต์ใช้ในอาหารและอาหารสัตว์ เป็นต้น
การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการขับเคลื่อนงานนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่า ผลิตผลทางการเกษตร สอดคล้องกับนโยบาย BCG ที่เป็นยุทธศาสตร์ประเทศ ที่ทั้งสองหน่วยงานได้ตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้