วิธี กิน" ทุเรียน" อย่างไร ไม่ให้อ้วน แถมดี ต่อสุขภาพ

01 พ.ค. 2565 | 04:13 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ค. 2565 | 14:21 น.

วิธี กินทุเรียนอย่างไรไม่ให้อ้วนแถมดีต่อสุขภาพ กรมอนามัย ระบุ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตไขมันสูง เทียบได้กับข้าวสวยเกือบทัพพี

 

 

 

 “กินทุเรียนอย่างไรไม่ให้อ้วนและดีต่อสุขภาพ” มักเป็นคำถามยอดฮิต ไม่ใช่เพียงเฉพาะสาวๆเท่านั้นยังรวมถึงหนุ่มๆที่มักนิยมหันมาให้ความสำคัญกับรูปร่างให้ดูดีอีกด้วย เพราะทุเรียน ราชาผลไม้ไทย ที่ใครได้ลิ้มลองแล้วรับประกันได้ว่า เลิกรายากเสียด้วย โดยเฉพาะแคมเปญ จูงใจเหล่าสาวกทุเรียน  อย่าง ปาร์ตี้ทุเรียน, บุฟเฟ่ทุเรียน  ,แข่งขันกินทุเรียน เป็นต้น หากบริโภคในปริมาณมากนอกจากจะอ้วนแล้วยังมีผลเสียต่อสุภาพตามมา

 

เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและมีไขมันค่อนข้างมาก ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ทุเรียน 1 เม็ดขนาดกลาง (40 กรัม) ให้น้ำตาล 18 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี เทียบได้กับข้าวสวยเกือบทัพพี (ข้าว 1 ทัพพี = 80 กิโลแคลอรี)

 

ดังนั้น หากกินครั้งละ 3 เม็ด จะรับพลังงานไปถึง 180 กิโลแคลอรี หรือกินข้าว 2 ทัพพีกว่า ๆ เลย แต่ถ้าเผลอกินครั้งละ 4-6 เม็ด ก็รับพลังงานไปเกือบ  400 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋อง หรือกินข้าวถึง 5 ทัพพี

วิธี กิน\" ทุเรียน\" อย่างไร ไม่ให้อ้วน แถมดี ต่อสุขภาพ

ดังนั้น  คนสุขภาพปกติทั่วไป ไม่ควรรับประทาน ทุเรียนเกิน 2 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินบ่อย หรือกินทุกวัน เพราะจะทำให้เจ็บคอ ร้อนใน ที่สำคัญคือ ทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง กินมากไปยังทำให้อ้วนได้

 

         

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องระมัดระวังการกินทุเรียนให้มาก โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต ควรเลี่ยงการกินทุเรียน เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้เท่าคนปกติ อาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

 

         

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ ก็ควรระวัง เพราะทุเรียนมีแป้งและไขมันสูง หากกินมากไป อาการอาจจะทรุดได้ แนะนำให้กินไม่เกิน 1 เม็ดเล็กต่อวัน และไม่ควรกินต่อเนื่องทุกวัน

 

วิธี กิน\" ทุเรียน\" อย่างไร ไม่ให้อ้วน แถมดี ต่อสุขภาพ

 

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุเรียนจัดอยู่ในอาหารกลุ่มผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต หากต้องการกินทุเรียนให้ได้รับประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสม ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ดขนาดกลาง (หนักประมาณ 80 กรัม) ไม่กินถี่ทุกวัน และลดอาหารกลุ่มข้าว-แป้ง 1 ทัพพี และของหวานในมื้อที่กินทุเรียน

 

 

ในทางกลับกัน หากใครชอบกินทุเรียนมาก กิน   ครั้งละประมาณ 2-3 พู หรือ 4-6 เม็ด ร่างกายจะรับพลังงานสูงถึง 520 – 780 กิโลแคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับกินอาหารมื้อหลัก 2 มื้อ ทุเรียนแต่ละพันธุ์เมื่อเปรียบเทียบต่อปริมาณเนื้อทุเรียนหนัก 100 กรัมหรือ 1 ขีด จะให้พลังงานต่างกัน เช่น ทุเรียนก้านยาวให้พลังงาน 181 กิโลแคลอรี

 

ทุเรียนรวง ให้พลังงาน 157 กิโลแคลอรี ทุเรียนหมอนทอง ให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี ทุเรียนชะนี ให้พลังงาน 139 กิโลแคลอรี ทุเรียนกระดุมให้พลังงาน  129 กิโลแคลอรี หรือหากเป็นทุเรียนกวนจะให้พลังงานมากขึ้นไปอีก คือ 340 กิโลแคลอรี นอกจากนี้ จึงควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน

 

 

 สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังเรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนทั่วไป อาจกินได้แต่ต้องกินในปริมาณน้อยกว่าคนปกติและไม่บ่อยเกินไป

 

เพราะการกินทุเรียนปริมาณมากหรือกินทุเรียนบ่อยเกินไป จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดได้ นอกจากนี้ ประชาชนไม่ควรกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ให้พลังงานสูงเช่นเดียวกัน

 

เมื่อกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะได้รับพลังงานที่มากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดกระบวนการ เผาผลาญเพื่อกำจัดของเสียเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ กรดกำมะถันในทุเรียนจะทำให้เอนไซม์ที่กำจัดสารพิษจากกระบวนการเผาผลาญลดลง หากมีปัญหาสุขภาพตามมาภายหลัง

ปฏิบัติอย่างไรเมื่อกินทุเรียน

  •           ลดอาหารมื้อหลักประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ให้น้อยลง เช่น กินทุเรียนแล้วก็ไม่ต้องซ้ำด้วยของหวานอื่น หรือถ้าจะกินทุเรียนมื้อนี้ควรลดข้าวให้น้อยลง

        

  •           หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มันจัด หวานจัด ในวันที่กินทุเรียน

 

  •            ไม่ควรกินข้าวเหนียวทุเรียนบ่อย เนื่องจากมีความหวานมัน         

 

  •           กินมังคุดร่วมกับทุเรียนได้ เพราะในมังคุดมีสารต้านการอักเสบช่วยแก้เรื่องร้อนใน และยังมีน้ำในปริมาณมาก การกินทุเรียนกับมังคุดจึงเข้ากันดี มีใยอาหารสูง แต่ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำตาลที่แฝงมาในผลไม้

 

  •            ระมัดระวังการกินทุเรียนแปรรูป เช่น ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด ทุเรียนเผา เป็นต้น เนื่องจากมีน้ำตาลสูงมากกว่าทุเรียนสด

 

  •           ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเผาผลาญแคลอรีส่วนเกินที่ได้จากการกินทุเรียน

 

 

เมื่อทราบถึงการกินทุเรียนอย่างถูกวิธีแล้วเรื่อง "อ้วน" ก็ไม่น่าห่วงอีกต่อไป !!!!