“จุรินทร์” เข้ม ห้ามขึ้นราคา "คาร์ซีท" พบแจ้ง1569 จับ-ปรับจริง
“จุรินทร์” สั่ง “ค้าภายใน”ติดตามราคา"คาร์ซีท"ห้ามขึ้นราคา พร้อมประสานห้างค้าส่ง-ค้าปลีก เร่งนำเข้าราคาถูกช่วยประชาชน! หากพบฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควรแจ้ง 1569 กรมใช้มาตรา 29 ใครฉวยขึ้นจับ-ปรับ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ประกอบการบ้างรายแอบปรับราคาคาร์ซีท(Car Seat)สำหรับเด็กการนั่งโดยสารในรถยนต์ที่จะบังคับใช้วันที่ 5 กันยายน 2565 อีกประมาณ 4 เดือน และกำหนดว่าเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบจะต้องมีคาร์ซีทสำหรับการนั่งโดยสารในรถยนต์นั้น
สิ่งที่กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยดูแลคือ กรมการค้าภายในได้มีการเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปแล้วเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมทีผ่านมา โดยเชิญห้างสรรพสินค้าและผู้บริหารแพลตฟอร์มต่างๆที่จำหน่ายคาร์ซีท ได้มีการสั่งการให้ 1.ห้ามปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด 2.ถ้ามีการขอปรับราคาเพราะต้นทุนนำเข้าสูงขึ้นหรือเหตุอื่น
ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในก่อนและขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เป็นต้นให้ช่วยนำเข้าคาร์ซีทราคาประหยัดมาจำหน่ายในประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคปฏิบัติตามกฏหมายต่อไป
และจากนี้ไปจะติดตามการจำหน่ายในแพลตฟอร์มต่างๆโดยกรมการค้าภายในแจ้งแล้วว่าห้ามแก้ไขหรือปรับราคาขึ้น หากมีการฉวยโอกาส ตรวจพบจะดำเนินคดีตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ถือว่าเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้บริโภคพบข้อสงสัยว่าจะเป็นการค้ากำไรเกินควร ขอให้ช่วยแจ้งสายด่วนกระทรวงพาณิชย์ 1569 เพื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
“เท่าที่ติดตามราคาคาร์ซีทในตลาด จากการสำรวจของพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าราคามีความแตกต่างกันมากตามคุณภาพรูปแบบต้นทุนนำเข้า ตกเฉลี่ยประมาณ 1,500-30,000 บาท ซึ่งแตกต่างกันมาก จะต้องมีการดำเนินการติดตามโดยใกล้ชิดต่อไป และกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องแจ้งราคาจำหน่ายมายังกรมการค้าภายในในฐานะเลขานุการคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และขอบคุณผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคจะได้ปฏิบัติตามกฏหมายเพื่อความปลอดภัยของเด็กที่ต้องโดยสารรถยนต์ต่อไป”
อย่างไรก็ตามประชาชนยังมีเวลาอีกประมาณ 4 เดือนที่ผลทางกฎหมายการบังคับใช้จึงจะเกิดดังนั้นกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นปลายทางของสถานการณ์ด้านราคาจะได้ประสานงานเรื่องสินค้าได้มาตรฐานราคาย่อมเยานำเข้ามาให้เป็นทางเลือกและโอกาสของประชาชนไม่ให้เป็นภาระของประชาชนมากไป