ค้าส่ง-ปลีกเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อยหวังยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย

12 พ.ค. 2565 | 08:07 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ค. 2565 | 15:14 น.

ค้าส่ง-ปลีกภูธรเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อย หวังช่วยยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย เปลี่ยนคู่แข่งเป็นพันธมิตร ถือคติ ต้องเติบโตไปด้วยกันแนะร้านโชวห่วยเร่งปรับตัว รับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนที่เน้นซื้อสินค้าผ่านออนไลน์

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายว่า ความท้าทายของธุรกิจโชวห่วยไทยปัจจุบันนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการโชวห่วยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการร้านค้า ขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) ผลักดันร้านโชวห่วยให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วย

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยผู้ประกอบการต้องเข้าสู่โลกดิจิทัลเพื่อเรียนรู้และซึมซับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนการประกอบธุรกิจ รวมถึง เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกประชาชน เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

 

ทั้ง ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ‘คนละครึ่ง’ ฯลฯ มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับพื้นฐาน และเทคโนโลยีจะเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการเข้าร่วมและเข้าถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ค้าส่ง-ปลีกเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อยหวังยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย

โดยกรมพัฒนาธุรกิจกาค้าจัดงานสัมมนา ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ซึ่งมีผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ทีเอ็มเค ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ได้ผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการเปิดพื้นที่จัดงาน ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านโชวห่วยรายย่อย

ค้าส่ง-ปลีกเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อยหวังยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย

พร้อมให้ศึกษาดูการจัดร้านค้าแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานสัมมนาฯ เพื่อเป็นต้นแบบในการนำกลับไปจัดร้านค้าของตนเองให้มีความสวยงาม สะอาด เลือกหาสินค้าได้สะดวก และลูกค้ารู้สึกสบายใจ-สบายตาในการเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเหนียวแน่นของผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ธุรกิจท้องถิ่นของไทยมีความแข็งแกร่ง

ค้าส่ง-ปลีกเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อยหวังยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย

 “จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกทั้งรายย่อยและรายใหญ่ที่เข้าร่วมสัมมนาฯ ทำให้ทราบว่า ความเข้มแข็งของธุรกิจที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่ถือคติร่วมกันว่า ต้องเติบโตไปด้วยกัน เพื่อส่งเสริมให้กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมกัน โดยไม่ได้มองธุรกิจประเภทเดียวกันเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ แต่มองว่าเป็นพันธมิตรที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจทั้งระบบมีความแข็งแกร่ง ซึ่งไม่เพียงจะเกิดเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น

ค้าส่ง-ปลีกเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อยหวังยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย

แต่รวมถึงการสานสัมพันธ์กับพันธมิตรเครือข่ายข้ามจังหวัดที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ และการค้าที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาประยุกต์เพื่อปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของตนเองได้อย่างลงตัว ส่งผลให้การประกอบการธุรกิจไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย แต่มีพันธมิตรที่พร้อมช่วยเหลือเกื้อกูลและส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าต่อไป”

ค้าส่ง-ปลีกเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อยหวังยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย

ทั้งนี้ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2565 เฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีมีผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกโชวห่วยขนาดกลาง (นิติบุคคล) จำนวน 3,698 ร้านค้า และธุรกิจค้าปลีกโชวห่วยขนาดเล็กประมาณ 6,000 ร้านค้า