นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงวาระการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค (APEC Ministers Responsible for Trade Meeting 2022: MRT) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 22 พฤษภาคมที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
จะเป็นประธานการประชุม ซึ่งรัฐมนตรีการค้าจากเขตเศรษฐกิจเอเปค จะเดินทางมาเข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรกนับจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย แคนาดา เม็กซิโก ญี่ปุ่น บรูไนฯ และเวียดนาม ยกเว้นจีนที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์
สำหรับการประชุม MRT กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 พ.ค. โดยรัฐมนตรีการค้าของ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค จะร่วมกันผลักดันและกำหนดทิศทางความร่วมมือในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจการค้าของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาทิ การสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดถือกฎเกณฑ์ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) การหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกับผู้แทนสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (APEC Business Advisory Council: ABAC)
เรื่องการขับเคลื่อนแผนงานการจัดทำ FTA เอเชีย-แปซิฟิก (FTA-AP) ในช่วงโควิด-19 และอนาคต โดยใช้นโยบายการค้าเป็นเครื่องมือสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมและยั่งยืน ซึ่งจะสะท้อนหัวข้อหลักในการเป็นเจ้าภาพของไทย คือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล Open. Connect. Balance
โดย ในวันที่ 19 พ.ค. จะมีการสัมมนา เรื่องการขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก ในช่วงโควิด-19 และอนาคต เพื่อส่งเสริมการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และประชาชน เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการจัดทำ FTA-AP และความตกลงการค้าเสรีในยุคหลังโควิด-19 รวมทั้งประเด็นการค้าใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากความตกลงการค้าเสรีในปัจจุบัน
สำหรับวันที่ 20 พ.ค. มีกำหนดจัดงานเสวนานานาชาติ APEC BCG Symposium 2022 เพื่อแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างภาครัฐ-เอกชน-วิชาการ และจัดทำข้อเสนอแนะในการส่งเสริม MSMEs กับ BCG เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“เอเปคเป็นเวทีที่เน้นการเปิดเสรีทางการค้าและการลดอุปสรรคทางการค้า โดยในปีนี้ไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคอีกครั้งในรอบ 20 ปี ซึ่งผลลัพธ์ของการประชุมเอเปคจะช่วยวางแนวทางฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยภายหลังยุคโควิดอย่างยั่งยืน และตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันจะเป็นโอกาสในการแสดงความพร้อมของไทยในการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลกหลังสถานการณ์โควิด-19”